จันทบุรี 13 มิ.ย. – วงจรปิดจับภาพนาทีระทึก 2 สามีภรรยาชาวกัมพูชา ควบเก๋งฝ่าสายฝนเสียหลักหลุดโค้งชนหลักกิโลเมตร พุ่งอัดติดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง ติดในซากรถทั้งคู่
คลิปเหตุการณ์ระทึกที่กล้องวงจรปิดของร้านธนาทรัพย์การเกษตร ต.มะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี สามารถบันทึกภาพในขณะที่ 2 สามี ภรรยาชาวกัมพูชา ขับรถเก๋งฝ่าสายฝนประสบอุบัติเหตุ หลุดโค้งชนหลักกิโลเมตร และพุ่งไปชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างทาง ทำให้สามี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บติดภายในซากรถยนต์ทั้งคู่ โดยเหตุเกิดบนถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ขาออกเมือง หน้าสหกรณ์การเกษตรมะขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี
หลังเกิดเหตุ ทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลมะขาม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้นำรถอุปกรณ์ตัดถ่าง ร่วมเดินทางตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งส่วนบุคคล โตโยต้า โคโรน่า สีบรอนซ์หมายเลขทะเบียน ขจ-9726 จันทบุรี อยู่ในสภาพเสียหลักพุ่งอัดติดกับโคนเสาไฟฟ้าแรงสูง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งมือใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง พยายามงัดซากรถฝั่งประตูผู้โดยสารเพื่อให้การช่วยเหลือ นางกิม จวน อายุ 31 ปี ชาวกัมพูชาที่อยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส ร่างถูกแรงอัดติดอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารข้างเบาะคนขับ ขณะทีมแพทย์ฉุกเฉิน ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมกับนำออกซิเจนให้กับผู้บาดเจ็บ เกรงจะเกิดอาการช็อคหมดสติ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถนำร่างของ นางกิม ออกมาจากซากรถได้สำเร็จ ก่อนรีบนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลมะขาม
ผู้บาดเจ็บอีกราย ทราบชื่อคือ นายสุเพีย เซ็ม อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นคนขับ อยู่ในอาการได้รับบาดเจ็บ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้ให้การช่วยเหลือ นำตัวส่งโรงพยาบาลมะขาม ไปก่อนหน้าแล้ว
จากการสอบสวนของ ร.ต.อ.ปราโมทย์ คงนันทะ รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมะขาม เบื้องต้น นายหนัง ซวก อายุ 35 ปี เพื่อนผู้บาดเจ็บ ที่ขับรถตามหลังมา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุเพีย และนางกิม สองผัวเมีย ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวที่เพิ่งจะซื้อมาได้เพียง 1 อาทิตย์ มาจาก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านที่กัมพูชา บริเวณชายแดน อำเภอโป่งน้ำร้อน ระหว่างทางเกิดมีฝนตก
ลงมาอย่างหนักและถนนลื่น ทำให้รถประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจร่องรอยในที่เกิดเหตุ มาประกอบกับภาพวงจรปิดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกันนี้จะได้ทำการสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ในการสรุปสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป .- สำนักข่าวไทย