วัดไร่ขิง 12 มิ.ย.-รอง ผอ.พศ.แจงพระสังฆาธิการอย่าเชื่อข่าวลวงสร้างความแตกแยกระหว่างคณะสงฆ์ กับพศ.กรณีเข้าตรวจสอบเงินวัด ไม่ให้พระถือเงิน ย้ำหนังสือดังกล่าวเพียงต้องการหาวัดตัวอย่าง ไม่มีถือว่าไม่ผิด ไม่มีใครบังคับ
นายณรงค์ ทรงอารมณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ง ชาติ (รองผอ.พศ.) กล่าวในการบรรยายพิเศษเรื่องนโยบายส่งเสริมการดำเนินการด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการประชุมสัมมนาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำปีงบประมาณ 2561 ที่วัดไร่ขิง จ.นครปฐม โดยมีเจ้าคณะจังหวัดและรองเจ้าคณะจังหวัด ทั่วประเทศ จำนวน 400 รูปเข้าร่วมประชุม ว่า ในปีงบประมาณ 2562
พศ.ได้ทำเรื่องของบฯ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาประมาณ1,000 ล้านบาท จากเดิมที่แต่ละปีจะได้รับงบฯในส่วนนี้ประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อต้องการส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีหลายโครงการที่เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โครงการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
และขอชี้แจงเรื่องหนังสือการจัดการด้านการเงินและบัญชีวัด วัตถุประสงค์ คือต้องการหาวัดตัวอย่างที่เรื่องการจัดบัญชีที่ถูกต้องมีประสิทธิภาพ จังหวัดไหนไม่มีไม่ผิด จังหวัดไหนมีเสนอขึ้นมา โดยมีการนำไปตีความว่า จะเข้าไปตรวจสอบเงินทอนวัด นอกจากนี้ยังมีข่าวออกมาอีกว่า พศ.จะออกกฎหมายมาเก็บภาษีพระ ถ้าพระมีเกิน 3,000 บาทจะถูกเก็บภาษี ไม่รู้ว่า ออกมาได้อย่างไร ซึ่งพระไม่มีรายได้ จะมาเก็บภาษีกับพระได้อย่างไร เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา พยายามสร้างความแตกแยกระหว่างคณะสงฆ์กับพศ.
อย่างไรก็ตาม ขอให้พระสังฆาธิการใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวในปัจจุบัน ขอกราบเรียนต่อพระสังฆาธิการว่าเรื่องของพศ.จะออกจากบุคคล 3 คน คือ โฆษกพศ. รองโฆษกพศ. ฝ่ายประชาสัมพันธ์พศ. หากไม่ได้ออกจาก 3 คนนี้ ถือว่าเป็นข่าวลวง ไม่ต้องแตกตื่น ไม่ต้องไปเบิกเงินจากบัญชี ไม่ต้องทำ ข่าวลวงออกมาก็โยนบาปให้พศ.ขอให้พระสังฆาธิการไม่ต้องกลัว เจ้าหน้าที่พศ.ที่นั่งอยู่ที่แห่งนี้มีหน้าที่ดูแลพระภิกษุสงฆ์ ไม่มีความคิดเก็บเงินพระ 3,000 บาท รวมทั้งรายได้จากเรื่องกิจนิมนต์หากได้เดือนละเป็นแสน ซึ่งวัดบ้านนอกมีพระไลน์มาหาตนเป็นจำนวนมาก ให้ช่วยหาเจ้าภาพจ่ายค่าน้ำค่าไฟ วัดบ้านนอกแทบไม่มีเงินจ่าย ขอให้พระสังฆาธิการช่วยชี้แจงวัดในเขตปกครองได้เข้าใจด้วยว่า ไม่มีใครจะไปทำแบบนั้น
รองผอ.พศ. ยอมรับว่าการทำงานในยุคนี้ยากลำบากมาก ทำงานภายใต้มาตรา 157 ซึ่งพระสังฆาธิการก็ถือว่าโดนด้วย หากไม่ปฏิบัติตามมาตรา 157 ซึ่งการใช้งบประมาณแผนดิน ที่วัดได้รับงบอุดหนุนไปนั้น หากเป็นงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างขอให้วัดมีสัญญาจ้าง แต่ถ้าเป็นงบฯการอุดหนุนกิจกรรม โครงการต่างๆขอให้เก็บใบเสร็จในการซื้อสิ่งของต่างๆไว้ให้ครบถ้วน เชื่อว่า วัดแต่ละวัด การจะไปทำทีโออาร์ แบบหน่วยงานราชการคงลำบาก แต่ขอให้ใช้งบประมาณแบบวัด แต่ต้องมีหลักฐานใบเสร็จไว้ ซึ่งพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.รับรู้การทำงานของพระคุณเจ้าทุกจังหวัดว่า ไม่สูญเปล่า .-สำนักข่าวไทย