13 พ.ค. – สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ประสานเจ้าคณะปกครองทุกจังหวัด กวดขันพฤติกรรมพระ ประพฤติผิดวินัย พร้อมเปิดสายด่วน 1374 ร้องเรียนพระมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า หลังเกิดกระแสข่าวในวงการสงฆ์มีพฤติกรรมไม่เหมาะเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง สำนักพุทธฯ ได้นำเรื่องเข้าสู่การประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ซึ่งเป็นองค์กรปกครองคณะสงฆ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง มส. ได้แสดงความห่วงใย พร้อมสั่งให้กำชับเจ้าคณะปกครองสงฆ์ทุกจังหวัด และส่งหนังสือเวียนไปยังสำนักพุทธฯ ทุกจังหวัด ช่วยสอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดให้เจ้าคณะปกครองในระดับชั้นต่างๆ ลงไปถึงเจ้าอาวาส กวดขันวัตรปฏิบัติให้เหมาะสม หากฝ่าฝืนสามารถขับออกจากวัดได้ และให้ฝ่ายปกครองดำเนินการ หากเจ้าอาวาสปล่อยปละละเลยถือว่ามีความผิด
เปิดสายด่วน 24 ชม. ร้องพระผิดวินัย
นอกจากนี้ยืนยันว่าสำนักพุทธฯ ไม่ได้หาย ทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งการให้สำนักพุทธฯ จังหวัด ประสานงานฝ่ายปกครองพื้นที่ ตรวจตราด้วยความเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้งรายงานมายังส่วนกลางเพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาเชิงรุก ล่าสุดได้ประสาน กอ.รมน.ทุกจังหวัด เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับคณะสงฆ์ถือว่ากระทบต่อความมั่นคงของสถาบันหลักอย่างพระพุทธศาสนา หากประชาชนมีเบาะแสพระที่ประพฤติไม่เหมาะสม ให้แจ้งมาที่สายด่วน 1374 ซึ่ง กอ.รมน. จะประสานสำนักพุทธฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ที่มีหน้าที่ดูแลพระกระทำผิดเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบว่ามีสายด่วน 1374 มากนัก จึงอยากจะให้เข้ามาร้องทางนี้มากขึ้น การไปร้องกับบุคคลอาจจะไม่ได้ดำเนินการที่ถูกต้อง อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่แสง จ.ยโสธร ถือเป็นกรณีตัวอย่างในการเข้าตรวจสอบต้องรอบคอบ ขณะเดียวกัน จากกรณีที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่แสง ทั้งสำนักพุทธฯ และประชาชน ยกให้เป็นเคสตัวอย่าง พระ-โยมอุปัฏฐาก ลูกศิษย์ที่ดูแลมาทำให้พระผู้ปฏิบัติดีมาตลอดชีวิตต้องเสียหาย ทำให้สั่นคลอนต่อพระพุทธศานาได้ ซึ่งสำนักพุทธฯ ได้มีการกำชับให้สำนักพุทธฯ จังหวัด ประสานเจ้าคณะปกครอง สำหรับพระที่ต้องดูแลพระที่มีวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ให้หลีกเลี่ยงสีกาเข้าไปดูแลถึงกุฏิและเข้าใกล้ การเข้าถึงกุฏิที่พักต้องมีกฏระเบียบ ซึ่งวัดต่างๆ ต้องมีที่รับรองรโหฐาน ต้องไม่ปล่อยให้ญาติโยมเข้าไปถึงในกุฏิได้ เพื่อเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้น
รอง ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนหลวงปู่แสง ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งเรื่อง ใบรับรองแพทย์ ประวัติการรักษา และสังขารของหลวงปู่ปัจจุบัน ทางจังหวัดกับคณะสงฆ์กำลังดำเนินการอยู่ หากท่านทำไปโดยไม่มีสติถือว่าเป็นอาบัติไม่ร้ายแรง แต่โดยสภาพความเป็นจริง หลวงปู่แสงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
“ทนายอนันต์ชัย” จะไปกราบหลวงปู่วันวิสาขบูชา อาสารับเป็นทนาย
ล่าสุด นายอนันต์ชัย ไชยเดช โพสต์ผ่านเพจ “ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช” ตอนหนึ่งว่า “กรณีมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง พร้อมนักข่าวที่ไร้ซึ่งสติปัญญาจรรยาบรรณ กระทำกับหลวงปู่แสง เยี่ยงอาชญากรในทางธรรมให้ท่านมีมลทินมัวหมอง เพียงต้องการสนองตัณหาแห่งความอยากนานัปการ วันวิสาขบูชานี้ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ วันที่ 15 พฤษภาคม ผมมีบุญแล้ว ที่จะได้ไปกราบหลวงปู่แสง พระอริยสงฆ์แห่งแผ่นดินสยามประเทศ ผู้ที่ควรกราบไหว้บูชา เยี่ยงพระอรหันต์ ผมจะเป็นทนายความแห่งกองทัพธรรม เพื่อปกป้องหลวงปู่แสง และพระพุทธศาสนาสืบไป จนกว่าชีวิตจะหาไม่”.-สำนักข่าวไทย
