สิงห์บุรี 10 มิ.ย.-สลด! แม่ชีวัย 52 ปี ป่วยโรคซึมเศร้า กระโดดจากชั้น 9 โรงพยาบาลสิงห์บุรี เสียชีวิต ส่วนที่ภูเก็ต เจ้าของบริษัททัวร์ วัย 58 ปี ยิงตัวเองเสียชีวิตภายในห้องนอน
ตำรวจสิงห์บุรีรับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีผู้พยายามจะกระโดดตึกในโรงพยาบาลสิงห์บุรี จึงนำกำลังเข้าไปที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นระเบียงชั้นลอยด้านหลังตึกอาคารหลวงพ่อแพ 9 ชั้น แต่ไปช่วยไว้ไม่ทัน โดยเจ้าหน้าที่พบร่างแม่ชีโฉมยา คุ่ยจาด อายุ 52 ปี เสียชีวิตในสภาพแขนขาหัก กะโหลกศีรษะแตก ส่วนบริเวณทางหนีไฟซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารบริเวณชั้นที่ 9 พบรองเท้าแตะ กระเป๋าสะพายแบบย่าม พร้อมผ้าสไบวางกองอยู่ ตรวจสอบภายในกระเป๋าพบเพียงเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน เงินสด 300 บาท โทรศัพท์มือถือ และบัตรผู้ป่วยโรงพยาบาลสิงห์บุรี
ขณะที่ญาติซึ่งเดินทางมาให้ข้อมูลระบุว่า แม่ชีโฉมยา บวชตั้งแต่อายุ 19 ปี เป็นผู้ใฝ่ในธรรมะ และพำนักอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมามีอาการป่วย เมื่อปี 57 จึงเดินทางมาอยู่ที่วัดราษฎร์บำรุง หรือวัดหนองลี อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อรักษาอาการป่วยโรคชักกระตุก อาการทางจิต และโรคซึมเศร้า ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี ซึ่งที่เกิดเหตุก็มาหาหมอที่โรงพยาบาล และได้โทรศัพท์ไปหาน้องสาว พร้อมเล่าว่ามีเสียงกระซิบบอกให้แม่ชีสึก แต่แม่ชีไม่สึก อยากให้น้องสาวมารับศพด้วย เพราะทนอยู่กับอาการเจ็บป่วยไม่ไหว แต่ญาติเดินทางมาไม่ทัน แม่ชีก็กระโดดตึกไปแล้ว
ตำรวจภูเก็ต ร่วมกับแพทย์ และกู้ภัย เข้าตรวจสอบศพนายอิทธิพร จิรกุลาภิบาล อายุ 58 ปี เจ้าของบริษัททัวร์ในอำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ที่ยิงตัวเองเสียชีวิตในห้องนอน สภาพสวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น เบื้องต้นพบรอยกระสุนที่ศีรษะด้านขวา 1 นัด และพบอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด 9 มม. ของผู้ตาย วางอยู่บนหน้าอก ตรวจสอบห้องนอนและบ้านพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้ รื้อค้นทรัพย์สิน รวมถึงไม่มีทรัพย์สินสูญหาย
สอบถามญาติและเพื่อนทราบว่าผู้ตายมีโรครุมเร้าหลายโรค ทั้งป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน นอกจากนี้ระยะหลังยังมีอาการซึมเศร้าและบ่นว่าเบื่อไปหาหมอ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ญาติและเพื่อนก็ช่วยกันปลอบและให้กำลังใจตลอดมา ส่วนในวันเกิดเหตุส่งไลน์บอกเพื่อนให้มาหา เพราะกลัวว่าจะไม่รอด รวมถึงบอกรักเพื่อนทุกคน เจ้าหน้าที่จึงคาดว่าสาเหตุการตายเกิดจากผู้ตายยิงตัวเองโดยตั้งใจ เพราะส่งไลน์แจ้งให้ญาติและเพื่อนรู้ก่อนปลิดชีพ ซึ่งญาติก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย