ตร.แก้จราจรกรุงและปริมณฑลได้ผล จ่อเพิ่มค่าปรับไม่สวมหมวกกันน็อค

กทม.8 มิ.ย.-  แก้ไขปัญหาจราจร กทม.และปริมณฑลของตำรวจนครบาลได้ผล เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่งผลให้ปัญหาจราจรกทม.หลายจุดคลี่คลาย ชู ตลาดพลู พื้นที่ใส่หมวกกันน็อค 100 %

จากสถิติ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุในเขตพื้นที่กรุงเทพฯช่วงเดือน เมษายน 2560 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง แต่เมื่อเทียบช่วงเมษายนและพฤษภาคม 2561 พบว่าลดลง 647 ครั้ง, เสียชีวิตลดลง 15 คน, บาดเจ็บลดลง 841 ครั้ง และบุคคลทุพพลภาพลดลง 6 คน เป็นผลจากการแก้ไขปัญหาจราจร การกวดขันจับกุมการไม่สวมหมวกนิรภัย ตามโครงการ กรุงเทพมหานคร เมืองต้นแบบ สวมหมวกนิรภัย 100 % 

พลตำรวจตรีจิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพลตำรวจตรี ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  หลังจากนี้จะเร่งแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหารถเมล์จอดแช่ป้าย, รถติดหน้าด่านเก็บเงินทางด่วนพิเศษ รวมถึงผู้กระทำความผิดซ้ำในการไม่สวมหมวกนิรภัย ที่พบว่ายังมีอยู่ในหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ ส่วนการลงโทษ นอกจากกฎหมายเอาผิดผู้ขับขี่แล้ว จะเอาผิดผู้ซ้อนท้ายที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และจะเพิ่มค่าปรับผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยจาก 1,000 บาท เป็น 1,500 บาท  ขณะที่ตำรวจได้บูรณาการ การทำงานเพิ่มประสิทธิภาพ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร กับหลายหน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร, องค์การขนส่งมวลชนฯและการรถไฟฯ  สำหรับการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะขาเข้าในช่วงเวลาเร่งด่วน ได้วางกรวยแบ่งช่องจราจรออกเป็น 2 ช่องทาง ช่วงเวลา 07.00-08.45 น.และมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้สะพานข้ามแยกคลองประปาเป็นเส้นทางเข้าศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พร้อมเปิดจุดกลับรถหน้าไปรษณีย์ไทย 2 ช่องทาง  ด้านถนนราชสีมา ถนนสามเสน ถนนราชวิถี และสะพานกรุงธนบุรีต่อเนื่องถนนสิรินธร ได้ประสาน กรุงเทพมหานคร เปิดช่องทางพิเศษ โดยรื้อเกาะกลางถนนราชวิถี เชิงสะพานกรุงธนบุรีฝั่งบางพลัด รวมระยะทางประมาณ 50 เมตร และเปิดเกาะกลางถนนหน้าศูนย์บริการรถยนต์อีซูซุ ระยะทาง 15 เมตร เร่งระบายรถที่มาจากสะพานกรุงธนบุรี เวลาเร่งด่วนช่วงเย็น.-สำนักข่าวไทย