กรุงเทพฯ 7 มิ.ย. – รักษาการผู้ว่าฯ กยท.เร่งขายยางในสตอก เพื่อปรับดุลทางบัญชี พร้อมวางแผนการตลาดใหม่ ปิดช่องทางไม่ให้ขาดทุน
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า การทำธุรกิจซื้อขายยาง ซึ่งร่วมทุนกับ 5 บริษัทที่ทำมาก่อนนี้ปิดตัวลงแล้ว สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางบัญชีให้เสร็จสิ้น อีกทั้งจะเร่งขายสตอกให้หมด ซึ่งจะทำให้สถานะดุลทางบัญชีดีขึ้น
สำหรับการร่วมทุนระหว่าง กยท.กับภาคเอกชน 5 บริษัทนั้น ดำเนินการก่อนนายเยี่ยม จะมาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการ กยท.ทำธุรกิจซื้อขายยางพารา รับซื้อยางเข้ามาเก็บไว้ในสตอก แต่เกิดภาวะราคายางพาราผันผวน ราคาตลาดโลกต่ำกว่าราคาที่ซื้อยางเข้ามา จึงขาดทุน ขณะนี้บริษัทร่วมทุนปิดตัวลงแล้ว และจะขายยางในสตอกออกไปให้หมด
นายเยี่ยม กล่าวว่า ได้วางแนวทางการทำธุรกิจและแผนการตลาดใหม่ โดยปิดช่องทางการขาดทุนอย่างที่เคยเป็นมา อีกทั้งทำให้ชาวสวนยางพาราขายยางได้ราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันจะมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยจะร่วมทุนกับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแล้วรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรส่งเข้าโรงงานของ กยท. ซึ่งทำหน้าที่รับจ้างผลิตเป็นยางแผ่นรมควันมาตรฐาน GMP แล้วให้ผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นคู่ค้าส่งออกไปขายตลาดต่างประเทศ ราคาขายให้คู่ค้า สิ่งสำคัญ คือ จะไม่ซื้อยางมาสตอกไว้ จะรับซื้อตามที่มีคำสั่งซื้อแล้วขายออกไปเท่านั้น ก็จะไม่เกิดปัญหาทุนจม สำหรับกำไรจากการขายยางพาราแบ่งกันตามสัดส่วนการลงทุนของ กยท. กับสถาบันเกษตรกร .-สำนักข่าวไทย
