กรุงเทพฯ 7 มิ.ย.- ตำรวจกำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอล พร้อมแสวงหาความร่วมมือช่วยแจ้งเบาะแส ย้ำบทลงโทษหนักตามกฎหมาย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงโครงการรณรงค์การป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน จนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 สมาพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ จะจัดให้มีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งพี่น้องประชาชนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและติดตามผลการแข่งขันพร้อมกันผ่านทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆ และในโอกาสเดียวกันก็มักจะมีผู้ที่ลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล การพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลออนไลน์ อันเป็นต้นเหตุแห่งอาชญากรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสงบสุขของสังคมโดยส่วนรวม สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการปราบปราม และสามารถจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันฟุตบอลายใหญ่ได้รหลายราย
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ตระหนักถึงความสำคัญและมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา จึงกำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล เพื่อให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์ จึงได้กำชับและสั่งการไปยังทุกหน่วยปฏิบัติในสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ในการแจ้งเบาะแสและข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานที่ที่มีการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล ตลอดจนพฤติกรรมหรือความเคลื่อนไหวผิดปกติที่อาจบ่งชี้ได้ว่าอาจเกี่ยวข้อง เพื่อการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลทางออนไลน์ อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา โดยได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลขึ้น และประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางและประสานการปฏิบัติร่วมมือกันระหว่างตำรวจและสถานศึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งแบ่งขั้นตอนการดำเนินงานออกเป็น ๔ ระยะ
ระยะที่ ๑ ระยะก่อนเริ่มการแข่งขัน
ระยะที่ ๒ ระหว่างการแข่งขัน
ระยะที่ ๓ หลังการแข่งขัน
ระยะที่ ๔ สรุปผลการปฏิบัติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน สถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ในการสอดส่องดูแลเด็กและเยาวชนในปกครองอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเล่นพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล หากต้องการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สามารถแจ้งมายังสายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย