กระทรวงเกษตรฯ 6
มิ.ย.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอความร่วมมือสมาคมแช่เยือกแข็ง
รับซื้อกุ้งให้ครบ 10,000 ตันตามเป้า หลังจากที่ผ่านมาเพิ่งซื้อได้ 195 ตัน ขณะที่ระยะเวลาสิ้นสุดรับซื้อภายในวันที่
23 กรกฎาคมนี้ ระบุราคากุ้งเริ่มขยับขึ้นแล้ว
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยภายหลังการหารือความก้าวหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ว่า
ตามที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง สมาคมแช่เยือกแข็งไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำร่วมกัน
โดยมีมติเสนอความช่วยเหลือในโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งขาวแวนนาไม ปี
2561 ดำเนินการรับซื้อกุ้งขาวแวนนาไมจากเกษตรกรในราคานำตลาด
เพื่อพยุงไม่ให้สถานการณ์ราคากุ้งตกต่ำอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายจำนวน 10,000 ตัน
ระยะเวลา 60 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม –23 กรกฎาคม 2561 ขณะนี้
สถานการณ์ราคากุ้งขยับตัวขึ้นเป็น 120 บาท/กิโลกรัม(กุ้งขนาด 100 ตัว/กก.)
จากเดิมราคา 105 – 110 บาท/กิโลกรัม
“สมาคมแช่เยือกแข็งไทย
ได้เข้าชี้แจงความก้าวหน้าโครงการประชารัฐรักษาเสถียรภาพราคากุ้งฯ ขณะนี้รับซื้อได้เพียง
195 ตัน จากเป้าหมาย 10,000 ตัน
เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยเป็นหลัก
ซึ่งมีต้นทุนการเลี้ยงสูง และขั้นตอนดำเนินการจับคู่ธุรกิจซับซ้อน
จึงทำให้ใช้เวลานานกว่ากระบวนการรับซื้อจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ
ได้ขอความร่วมมือสมาคมแช่เยือกแข็งไทย ขยายเวลารับซื้อกุ้งให้ครบ 10,000 ตันต่อไป”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯกล่าว
ขณะเดียวกัน สมาพันธ์เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งไทย
ยื่นข้อเสนอให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น
ประกอบด้วย 1) ขอให้ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธกส.) ในอัตราร้อยละ 3 ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานกระทรวงพาณิชย์
เตรียมเสนอเรื่องต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)
ในวันที่ 7 มิถุนายน นี้ 2) ขอให้ปรับอัตราค่าไฟฟ้าเป็นอัตราไฟเกษตร เป็นระยะเวลา
2 เดือน โดยได้ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และกระทรวงมหาดไทยรับไปพิจารณาแล้ว และ
3) การขอเลี้ยงกุ้งในเขตชายฝั่ง
และการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด โดยกระทรวงเกษตรฯ
ได้ประสานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงรับไปพิจารณาต่อไป–สำนักข่าวไทย