เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – ปีนี้ผลผลิตมะม่วงที่ จ.เชียงใหม่ พื้นที่ปลูกมะม่วงแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของบ้านเรา ออกมากกว่าทุกปี ทำให้ราคาผันผวน แต่สำหรับตลาดมะม่วงส่งออกยังมีอนาคต เพราะตลาดหลักในต่างประเทศ ทั้งเกาหลี ญี่ปุ่น และยุโรป ยังคงนิยมมะม่วงไทย ทางรอดของชาวสวนมะม่วง จึงจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพเพื่อส่งออก รวมทั้งปลูกพืชเสริมกระจายความเสี่ยง จึงจะช่วยให้ทำสวนมะม่วงได้อย่างยั่งยืน
เชิงดอยหลวงเชียงดาว อ.เชียงดาว เต็มไปด้วยสวนมะม่วงมากมาย ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกมะม่วงแหล่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ ส่วนใหญ่ปลูกมะม่วงที่ตลาดนิยม ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง และมะม่วงมหาชนก อย่างสวนของ “พี่มานพ” อดีตเกษตรอำเภอ ที่ผันมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวหลังเกษียณ แต่บุกเบิกทำสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองราว 50 ไร่ มานับสิบปีแล้ว โดยใช้เทคนิคการแต่งกิ่งมะม่วงให้ต้นเตี้ย ทำให้ดูแลและจัดการง่าย ทั้งการห่อและเก็บมะม่วง แถมลดการใช้ยาและปุ๋ย พัฒนาคุณภาพมะม่วง ทั้งรสชาติ ขนาด และผิวสวย จนเป็นมะม่วงคุณภาพส่งออกได้ สร้างรายได้ร่วมๆ ปีละ 2 ล้านบาท
ที่เชียงดาว ปลูกมะม่วงราว 30,000 ไร่ แต่ละปีสร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท ปีนี้ฝนฟ้าดี มะม่วงออกเยอะกว่าทุกปี ราคาจึงค่อนข้างผันผวน แม้แต่ตลาดส่งออก ราคายังถูกกว่าทุกปี แต่ก็ยังมีแนวโน้มขยับขึ้น
ผู้ค้าและส่งออกมะม่วงรายใหญ่ บอกว่า มะม่วงไทยยังได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ ทั้งเกาลี ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรป ที่ชื่นชอบความหอมหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้ไทย ช่วงครึ่งเดือนมานี้รับซื้อมะม่วงแล้วกว่า 200 ตัน ซึ่งแต่ละปีส่งออกนับพันตัน มากกว่าครึ่งส่งไปเกาหลี แต่ชาวสวนจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพมะม่วงให้ดีขึ้น ทั้งขนาด รูปทรง ผิวและสีสัน เพื่อให้แข่งขันกับมะม่วงคู่แข่งที่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ได้
เฉพาะที่เชียงใหม่ปลูกมะม่วงกันเกือบ 80,000 ไร่ ผลผลิตปีนี้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ตัน จึงไม่แปลกที่ราคามะม่วงจะผันผวน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านมะม่วง บอกว่า ทางรอดของชาวสวนมะม่วงจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณภาพให้ส่งออกได้ และต้องปลูกพืชแซมมะม่วง อย่างเงาะ มะยงชิด มะไฟ หรือพืชที่ทำเงินได้ เพื่อลดความเสี่ยง
ช่วงที่มะม่วงออกมาก จำเป็นต้องกระตุ้นตลาดภายในและกระจายผลผลิต โดยที่เชียงใหม่เตรียมจัดงานวันมะม่วงเชียงใหม่ 6-8 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวได้ชิมและซื้อมะม่วงคุณภาพดีราคาไม่แพง แถมได้ช่วยชาวสวนอีกทางหนึ่ง. – สำนักข่าวไทย