กรมการแพทย์แผนไทยฯ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เน้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในผู้ป่วยมะเร็ง เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 1 ของคนไทยตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โดยโรคมะเร็งที่เป็นปัญหาสำคัญ 5 อันดับแรกของประเทศ คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งการรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ต้องใช้ระยะเวลาต่อเนื่อง และเสียค่าใช้จ่ายสูง จึงส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม และเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ มากกว่าร้อยละ 40 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกแสวงหาและใช้ทางเลือกอื่นในการร่วมรักษามะเร็ง อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือการปรับอาหาร สมาธิ วิตามินขนาดสูง สมุนไพร การแพทย์ดั้งเดิมต่างๆ เป็นต้น
การดูแลสุขภาพผู้ป่วยมะเร็งแบบองค์รวม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จะเน้นธรรมชาติบำบัด มีวิธีการทางการแพทย์ทางเลือกมากมายที่ผู้ป่วยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดูแลตนเอง เช่น การทำสมาธิบำบัด ธรรมชาติบำบัด ดนตรีบำบัด และวิธีการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ รวมถึงสมุนไพรที่ถูกนำมาเป็นทางเลือกในการบำบัดโรคมะเร็งด้วย กลุ่มพืชผักสมุนไพร ที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยมะเร็ง ได้แก่ ขิงหรือชาชงขิงลดอาการคลื่นไส้อาเจียน มะระจีน มะระขี้นก ยอดหรือดอกสะเดา หรือแกงขี้เหล็กเป็นอาหารรสขมช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ยาหอมสุขไสยาสน์ หรือยาหอมตำรับอินทจักร์ช่วยให้นอนหลับ หรือกรณีที่มีแผลจากรังสีรักษา ใช้เจลว่านหางจระเข้ ครีมบัวบก ครีมหรือเจลพญายอช่วยรักษาแผลและบรรเทาอาการอักเสบ เป็นต้น
สรุปโดยรวมของการดูแลผู้ป่วยมะเร็งมีหลักสำคัญ 4 อย่าง คือ บำรุงสุขภาพ รักษาโรค การคืนสู่สภาพปกติ และสภาพจิตใจ มีหลักสำคัญ คือ หาสาเหตุที่ทำให้ร่างกายขาดความสมดุลย์ และแก้ไขส่วนขาด ลดส่วนเกิน ผู้ป่วยมะเร็งต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตามหลัก 8 อ. มีดังนี้
1.อิทธิบาท 4 ดำเนินชีวิตโดยยึดถือธรรมะแห่งความสำเร็จ 2.อารมณ์ดี ทำจิตใจให้แจ่มใส โดยการฝึกทำสมาธิหรือเดินจงกรมอย่างน้อยวันละ 15 นาที เพราะผลเสียของความเครียดจะกดภูมิต้านทานร่างกายให้ต่ำลง 3.อาหาร รับประทานอาหารอย่างสมดุล รับประทานผักที่ปลอดสารพิษ เช่น ผักที่ปลูกเอง ซึ่งผักมีแร่ธาตุที่สำคัญและวิตามินต่าง ๆ มากมาย และไม่เป็นการเพิ่มสารพิษเข้าสู่ร่างกายจากผัก พร้อมทั้ง มีกากอาหารเพื่อดูดซับสารพิษให้ออกจากร่างกาย 4.ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอทุกวันอย่างน้อยวันละ 15 นาที โดยใช้โยคะ ชี่กง หรือฤาษีดัดตน 5.อากาศ ดื่มด่ำอากาศธรรมชาติบ่อยๆให้ร่างกายได้รับความสดชื่น 6.เอนกาย ควรพักผ่อนให้เพียงพอ โดยควรนอนหลับก่อน 21.00 น.ไม่ควรนอนดึก 7.เอาพิษออก ขับถ่ายให้เป็นเวลา ไม่กลั้นอุจจาระปัสสาวะ 8.อาชีวะ เน้นการทำงานตามอาชีพที่เหมาะสม อย่าว่างงาน นี่คืออีกทางเลือกหนึ่ง ของผู้ป่วยโรคมะเร็งที่สามารถปฏิบัติเองได้ง่ายๆ เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ป่วยมะเร็ง.-สำนักข่าวไทย