ปราจีนบุรี 6 พ.ค. – หน่วยงานสาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี ลงพื้นที่ตรวจบ้านหมอสมุนไพรเถื่อนใน อ.กบินทร์บุรี หลังมีลูกสาวโพสต์ทำแม่ป่วยมะเร็งเสียชีวิต เพราะถูกฉีดยาที่เป็นเหมือนน้ำหมักเข้าเส้นเลือดดำ
ลูกสาวโพสต์โซเชียลถึงเรื่องราวพาแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองไปฝากให้น้าดูแล เพราะตัวเองจะต้องไปดูแลลูกสาว แต่น้ากลับพาแม่ไปรักษากับหมอสมุนไพรที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้ดื่มน้ำต้มดอกดาวเรือง และฉีดยาที่เป็นเหมือนน้ำหมักทางเส้นเลือดดำ ไม่ให้กินยาแผนปัจจุบัน เพราะมีสเตียรอยด์ จนแม่เสียชีวิต
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา หน่วยงานสาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.วังตะเคียน สาธารณสุข อ.กบินทร์บุรี ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บ้านคลองมะเดื่อ อ.กบินทร์บุรี เกี่ยวกับการลักลอบผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนฝ่ายตำรวจ สภ.วังตะเคียน ได้ประชุมติดตามข้อมูลคดี
วานนี้ (5 พ.ค. 68) พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.วังตะเคียน นำหมายเข้าตรวจค้นในบ้านของผู้ที่อ้างว่าเป็นหมอสมุนไพร โดยมีลูกศิษย์นำไปตรวจดูจุดต่างๆ ส่วนหมอสมุนไพร ชื่อนายพรชัย (นามสมมติ) ตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไปออกรายการ จึงมีลูกศิษย์คอยดูแล
เมื่อตรวจสอบภายในบ้านเจ้าหน้าที่พบสมุนไพรผง-น้ำชนิดต่างๆ เครื่องมือผลิต และมีห้องพัก จากการเดินสำรวจรอบๆ บ้านพัก เจ้าหน้าที่พบสายน้ำเกลือหลายสายอยู่ในลัง ลักษณะเหมือนถูกใช้แล้ว และยังพบลังน้ำเกลือจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีกล่องเข็มฉีดยา 1 ชิ้น ทันทีที่เจ้าหน้าที่เห็นเข็มฉีดยา ลูกศิษย์พยายามนำเข็มฉีดยาไปหัก เจ้าหน้าที่จึงเตือนว่าไม่ต้องหัก ไม่ต้องฉีด นอกจากนี้ยังพบกล่องอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วน เจ้าหน้าที่ยึดทั้งหมดไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ภาค 2 จ.ชลบุรี ส่วนเครื่องมือได้อายัดไม่ให้ใช้งานจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
นายนัฐพงษ์ ขันธรักษ์ เภสัชกรชำนาญการ กล่าวว่า ผู้ประกอบกิจการมีความผิดคือ มีผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดดำเนินคดี
จากนั้นช่วงบ่าย นายพรชัย (นามสมมติ) ได้เดินทางเข้าให้ปากคำที่ สภ.วังตะเคียน พร้อมผู้ป่วยอีก 5-6 คน ที่เดินทางมารับการรักษากับนายพรชัย (นามสมมติ) พี่ชายเจ้าของบ้านบอกว่าภาพถ่ายน้ำในโอ่งที่มีหนอนนั้นไม่ใช่น้ำสมุนไพร แต่เป็นน้ำหมักชีวภาพสำหรับทำปุ๋ยรดต้นไม้ และสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่รักษาผู้ป่วย แต่สมุนไพรที่พบในบ้านเป็นของเจ้าของบ้านที่ใช้รักษาอาการป่วยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มีพระที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าตนเองก็ใช้สมุนไพรรักษาอาการป่วยเรื้อรังจนหาย โดยการกินและฉีด นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติคนอื่นๆ ที่ตนเองและเจ้าของบ้านหลังนี้ช่วยกันทำการรักษา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แต่ยังไม่สามารถดำเนินคดีกับใครได้ เพราะยังไม่พบการกระทำผิด.-สำนักข่าวไทย