กทม.1 มิ.ย.-ตำรวจกอง 4 กองปราบจับผู้จัดการโรงไฟฟ้าป่าโมก อ่างทอง พี่ชายอดีตรองเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง สิงห์บุรี เอี่ยวคดีพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์หายไปจากวัด
ตำรวจกองกำกับการ 4 กองปราบปราม คุมตัวนายอนุรักษ์ ชูเนตร ผู้จัดการโรงไฟฟ้าไฟฟ้าป่าโมก จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาร่วมกันนำพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก 25 นิ้วไปขายโดยเป็นพี่ชายอดีตพระครูกิตติ รองเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งถูกจับไปก่อนหน้ามาสอบปากคำหลัง คุมตัวมาจากบ้านพักใกล้วัดท่าโขลง ตำบลวัดตูม อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นการขยายผลจากจับอดีตพระครูกิตติ โดยยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนในหลายคดีที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็น แต่แนวทางการสืบสวนพบว่า นายอนุรักษ์ เกี่ยวข้องกับการหายไปของพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ของวัดตราชู ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามกลับคืนมาได้ 1 องค์ จากการสอบสวนพบว่าอดีตพระกิตติได้นำพระพุทธรูปองค์นี้ไปฝากไว้ที่บ้านของนายอนุรักษ์ ซึ่งเป็นพี่ชาย ก่อนเคลื่อนย้ายพระคืนวัดกุฎีทองและส่งคืนวัดตราชู ส่วนพระพุทธรูปอีก 2 องค์ยังหายสาบสูญ
หลังสอบปากคำ ได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ในข้อหา ร่วมกันเป็นผู้สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และรับของโจร
มีรายงานว่า จากการสืบสวนยังพบว่าอดีตพระกิตติมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี และเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลในพื้นที่อีกด้วย ถือว่าเป็นพระมีอิทธิพลใน จ.สิงห์บุรี และวานนี้ ตำรวจกองปราบได้เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 4 จุด พบพระโบราณกว่า 100 องค์ ยังไม่ทราบที่มาที่ไป หวั่นเป็นพระที่ถูกโจรกรรมมาจากทั่วประเทศ โดยอายัดไว้ที่วัดกุฎีทอง.-สำนักข่าวไทย
