“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ!

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด


นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ แต่ไม่ยินยอมให้มีการละเมิดอำนาจอธิปไตย ถือเป็นการกระทำมากกว่าคำพูด เราได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ในช่วงที่เราไปเมื่อวานนี้ เราได้ยึดถือสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นหลัก ในขณะเดียวกันในการเจรจาทุกเรื่อง เราได้หารือโดยตรงกับกองทัพมาโดยตลอด โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เราได้ติดต่อกันมาโดยตลอด การที่เราได้ข้อสรุปในเรื่องการหยุดยิง ถือเป็นความพยายามของประเทศไทยที่ต้องการลดความสูญเสีย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒธรรม และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือรักษาไม่ให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่านี้

“ที่ทุกคนเป็นห่วง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เราปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนเต็มที่อยู่แล้ว เราติดต่อกองทัพอยู่ตลอดเวลา เพื่อพิจารณาว่าตรงไหนเป็นอย่างไร รับได้แค่ไหน เพราะฉะนั้น ผลสำคัญที่ออกมาจากการประชุมเมื่อวานนี้เป็นสิ่งที่ดี” นายมาริษ กล่าว


นายมาริษ ย้ำว่า เราสามารถลดความตึงเครียด หยุดความกระทบกระทั่งกันและนำมาสู่ขั้นตอนการเจรจา ซึ่งสามารถดึงให้ประเทศอาเซียน สหรัฐอเมริกาและจีน ให้เห็นถึงความสำคัญและทำให้กัมพูชาได้ยืนยันว่าประเทศไทยสามารถที่จะดึงเขากลับมาสู่ต้องเจรจาในกลไกที่เรามีอยู่ทั้ง 3 กลไก

ท้ายที่สุดนโยบายที่เราพยายามคือการเจรจาทวิภาคี ตนถูกตั้งคำถามมาทั้งต้นว่าเขาจะไม่มาเจรจา ดังนั้น เป็นความพยายามที่เราต้องกดดันผ่านกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นองค์การระหว่างประเทศ องค์การนานาชาติ ประเทศพันธมิตรหรือประเทศที่เป็นมหาอำนาจ รวมทั้งประเทศที่เป็นสมาชิก UNSC และเมื่อเกิดกรณีกระทบกระทั่งก็เป็นแรงกดดัน ที่ท้ายที่สุดไม่มีอะไรดีไปกว่าการเจรจาทวิภาคี ตนถือว่าเราประสบความสำเร็จที่จะดึงเขากลับมานั่งเจรจาทวิภาคีแล้วภายใต้การสังเกตการณ์ของมหาอำนาจ

นายมาริษ เปิดเผยด้วยว่า เมื่อเช้านี้ ก่อนทำหนังสือประท้วง ตนได้โทรศัพท์คุยกับรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ได้อธิบายให้เขาฟังว่ามีการกระทบกระทั่งกัน ตนมีความจำเป็นจะต้องทำการประท้วงไปที่ประธานอาเซียน ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพและพยาน


“ผมอธิบายให้เขาฟังและส่งหนังสือเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้สั่งการว่าจะต้องทำหนังสือให้พยานอีกสองประเทศ คือสหรัฐและจีน ให้ได้ตระหนักถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของไทยและกัมพูชา เมื่อเช้านี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ประสานงานไปที่ออฟฟิศของนายกอันวาร์ ได้มีการพูดคุยกันระหว่างนายกอันวาร์และนายภูมิธรรม เมื่อเช้านี้เรียบร้อยแล้ว โดยได้เล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเล่าถึงความพยายามของเราที่จะประท้วง เนื่องจากมีการละเมิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะประธานาธิบดีอินโดนีเซียอยู่ด้วยพอดี ผมเองได้พูดกับท่านโดยตรง ซึ่งท่านก็เข้าใจ” นายมาริษ กล่าว

นายมาริษ ระบุว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราพยายามจะลดความตึงเครียดของปัญหา ขณะเดียวกันมันอาจจะมีการกระทบกระทั่ง ยังไม่ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์ เราพยายามที่จะแก้ปัญหา ฝากทุกท่านระมัดระวังว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นเพื่อตอบเป้าหมายของรัฐบาลและประเทศชาติ เรื่องแรกเราไม่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างแน่นอน สอง เราต้องการที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างสันติและสุจริตใจ

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ผู้สื่อข่าวถามถึงความเชื่อมั่นหลังการเจรจาว่าเป็นการยินยอม หรือทำให้ประเทศเสียเปรียบในเวทีโลกหรือไม่ นายมาริษ ยืนยันว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลก เมื่อวานทันทีที่เครื่องแตะพื้น หลังการเจรจาก็ได้มีการพูดคุยกับนายโดนัล เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งในระหว่างการพูดคุย ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้เกียรติประเทศไทย และพูดว่าสิ่งที่รัฐบาลไทยทำเมื่อวานนี้นำมาสู่สันติภาพที่จะเกิดขึ้นในอาเซียน จึงไม่มีประโยชน์ในการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และประธานาธิบดีทรัมป์พูดอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่ตัดสินใจในครั้งนี้ได้รับการชื่นชมจากตนและนานาอารยประเทศ ที่จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ขณะที่นายภูมิธรรม ก็ย้ำว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้น ดังนั้น ประชาชนควรชื่นชมสิ่งที่รัฐบาลไทยทำเพื่อแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี

ส่วนได้เปรียบหรือเสียเปรียบกับประเทศกัมพูชา นายมาริษ กล่าวว่า ระหว่างการเจรจามี พล.อ.ณัฐพล นั่งอยู่ด้วยแล้วได้ติดต่อกองทัพตลอด คำว่ารัฐบาล, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงกลาโหม ทำเพื่อปกป้องอธิปไตยและลดความสูญเสีย

ส่วนกรณีที่กัมพูชาพยายามบิดเบือน ส่งผลให้ประเทศไทยเสียเปรียบหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเราชี้แจงด้วยความอดทนอดกลั้น สิ่งที่ยืนยันคือเราไม่ได้ใช้โอกาสในการบิดเบือน เราพูดข้อเท็จจริง เป็นสุภาพบุรุษ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลสายตาโลก ซึ่งนอกเหนือจากหนังสือประท้วงดังกล่าวแล้ว ยังส่งไปให้ทูต UN ประจำนครนิวยอร์กและเจนีวาด้วย เชื่อว่าสุดท้ายความจริงก็คือความจริง หากเชื่อข้อมูลบิดเบือนได้ โลกก็ไม่มีความสงบสุข ขออย่ากังวล เพราะมอนิเตอร์สถานการณ์ ภาพลักษณ์เราดีมาก

นายมาริษ กล่าวทิ้งท้ายว่า นายแอลมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ส่งข้อความมายินดี และหลังจากแถลงนี้ตนจะเข้าหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามซึ่งจะมีการทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันด้วย.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย