จีน-ญี่ปุ่นหาลู่ทางลงทุนอีอีซี

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. –  ก.อุตฯ เผยจีนและญี่ปุ่นสนใจลงทุนอีอีซี คาด 5 ปีจะมีการลงทุนในพื้นที่อีอีซีรวม 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมเป้าหมาย งานวิจัยและพัฒนา การสร้างเมืองใหม่หรือสมาร์ทซิตี้


สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จัดงานสัมมนาหัวข้อ “China-Japan Corperation on the Eastern Economic Corridor of Thailand” 

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การสัมมนาวันนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้สาธารณรัฐประชาชนจีนและญี่ปุ่นลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอกชนระหว่างจีนญี่ปุ่นในประเทศที่ 3 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 ที่กรุงโตเกียว โดยบันทึกความเข้าใจดังกล่าวระบุถึงการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนากิจกรรมทางธุรกิจของภาคเอกชนจีนและญี่ปุ่นภายใต้กรอบเจรจาระดับสูงด้านเศรษฐกิจและทั้ง 2 ประเทศจะร่วมกันสำรวจตลาดและภาคอุตสาหกรรมในประเทศที่ 3 ที่ภาคเอกชนจีนและญี่ปุ่นจะร่วมลงทุน


นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางจีนและญี่ปุ่นมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนในภาคอุตสาหกรรมงานวิจัยและพัฒนา และการพัฒนาบุคลากรในประเทศไทย โดยเน้นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากนี้ ทางจีนยังขอนำคณะนักลงทุนมาดูลู่ทางการลงทุนในไทย โดยมีความสนในลงทุนตามนโยบายประเทศไทย 4.0 และอุตสาหกรรม 4.0 ทางญี่ปุ่นสนใจเรื่องห่วงโซ่การผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงอุตสาหกรรมลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรมกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (เมติ) ในเรื่องอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่ง สกพอ.จะติดตามหน่วยงานทั้ง 2 ประเทศต่อไป เช่น ทางญี่ปุ่นจะติดตามจากธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่าง ประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) และหน่วยงานของจีนต่อไป ทั้งการลงทุนใหม่และการขยายการลงทุนเดิมที่มีอยู่แล้วในประเทศไทย

นอกจากนี้ สกพอ. บีโอไอ และกระทรวงอุตสาหกรรมยังเตรียมที่จะจัดทำโครงการโรดโชว์เพื่อชักจูงนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และสหภาพยุโรป ให้เข้ามาลงทุนในอีอีซี โดยทางเกาหลีเชิญกระทรวงอุตสาหกรรมนำคณะไปเยือน เพื่อแสวงความร่วมมือในการลงทุนระหว่างทั้ง 2 ประเทศเร็ว ๆ นี้  คาดว่า ในช่วง 5 ปีนับจากนี้การลงทุนในพื้นที่อีอีซีจะมีการลงทุนรวมสูงถึง 43,000  ล้านดอลลาร์สหรัฐ 


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอีอีซี จะร่วมกับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยและสถานทูตจีนประจำประเทศไทยตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือการลงทุนร่วมกันของจีนและญี่ปุ่น ซึ่งมีพื้นที่อีอีซีเป็นพื้นที่นำร่องของทั้ง 2 ประเทศ โดยกรอบการทำงานจะเสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะถูกบรรจุไว้ในการประชุมระดับผู้นำประเทศและมีการพูดถึงความร่วมมือลงทุนในอีอีซีติดไปด้วยทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมที่จะประสานความร่วมมือกับทุกประเทศที่มีความสนใจลงทุนในอีอีซีและลงทุนในไทย ส่วนประเทศเกาหลี ยังไม่มีความร่วมมือในการลงทุนในไทย เช่นที่จีนกับญี่ปุ่นได้ร่วมมือกันในครั้งนี้ ส่วนการเปิดประมูลโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐยืนยันว่าจะยังคงอยู่ในรูปแบบของการเปิดประมูลแบบ international Bidding ในรูปแบบกรอบแผนงานโครงการร่วม ลงทุนกับเอกชน (PPP)

นายหนิง จี๋เจ๋อ รองประธาน คณะกรรมาธิการเพื่อการปฏิรูปและพัฒนาสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่าจีนและไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันและประชาชนใกล้ชิดสนิทสนมกันสมาชิกในครอบครัวพัฒนาการความร่วมมือทวิภาคีก็มีแนวโน้มดีขึ้นตลอด 43 ปีตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกันนำมาซึ่งผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความร่วมมือระหว่างประชาชนกับประชาชน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือในสาขาอื่น ๆ 

ทั้งนี้ เชื่อว่าโครงการอีอีซีของไทยจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งสำคัญในการเพิ่มพูนการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ตลอดจนการยกระดับและคุณภาพของการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมซึ่งผู้นำจีน ญี่ปุ่นและไทย ต่างให้ความสำคัญอย่างมากต่อความร่วมมือไตรภาคีที่ทั้งมีความสำคัญอย่างยิ่งและมีโอกาสในวงกว้าง ทั้งนี้หน่วยงานภาครัฐของทั้ง 3 ประเทศจึงควรเพิ่มการสื่อสารด้านนโยบายระหว่างกัน รวมถึงการให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกแก่บริษัทของทั้ง 3 ประเทศและส่งเสริมให้ความร่วมมือในโครงการเฉพาะเจาะจง

นายชิโร ซะโดชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจําประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมากิจการของญี่ปุ่นกว่า 5, 000 กิจการได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยและโดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี ซึ่งต่างก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยรัฐบาลญี่ปุ่นจะยังคงผลักดันและสนับสนุนกิจกรรมทางธุรกิจของภาคเอกชนญี่ปุ่นในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่อีอีซี อีกทั้งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง  ในการนี้รัฐบาลญี่ปุ่นมีความประสงค์ที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเอกชนญี่ปุ่นจีนและไทย.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปมเหตุเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต กลางลานจอดรถ

เผยปมเหตุเผาพ่อค้าขายแตงโมกลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ล่าสุดลูกสาวโพสต์เศร้า หลังพ่อเสียชีวิต พบประวัติผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อ 4 ปีก่อน

ระงับทุนการศึกษาเมียนมา

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : “ทรัมป์” ระงับทุนการศึกษา นศ.เมียนมา

นักเรียนทุนเมียนมาตกใจเมื่อพบว่าทุนการศึกษาของพวกเขาถูกยกเลิกไปกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับนักศึกษาเมียนมากว่า 400 ชีวิต ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

ฆ่ายัดกระเป๋า

พบเบาะแสคนร้าย คดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ

พบเบาะแสคดีฆ่าสาวปริศนา ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยเห็นรถต้องสงสัยบริเวณจุดทิ้งศพ เชื่อวนกลับมาดูว่าศพลอยน้ำหรือไม่

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”

ข่าวแนะนำ

ยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER

วันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์”

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์” นางแบบดังระดับโลก บอกดีใจที่ได้เจอ ก่อนหารือ อุตสาหกรรมแฟชั่น หวังต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ด้าน “นาโอมิ” บอกตื่นเต้นที่จะได้ช่วยงาน ชมนายกฯ ชอบแฟชั่นที่แตกต่าง เป็นเรื่องที่ดี

Myawaddy City Fuel Shortage, Cars Have to Travel to Mae Sot to Buy

เปิดภาพรถข้ามมาเติมน้ำมันที่แม่สอด จนติดยาวเหยียด

เมียวดี 10 ก.พ.- สื่ออิสระของเมียนมาโพสต์ภาพยวดยานจำนวนมากในเมืองเมียวดี พากันข้ามพรมแดนมายังอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยในเช้าวันนี้ เพื่อเติมน้ำมัน จนรถติดขัดยาวเหยียด เฟซบุ๊กของสำนักข่าวท่าขี้เหล็ก (Tachileik News Agency) ซึ่งเป็นสื่ออิสระที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐรายงานบรรยากาศในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาในเช้าวันนี้ว่า หลังจากทางการไทยจำกัดการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังพื้นที่พรมแดน 5 จุดในเมียนมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายในเมียวดีและกวาดล้างแก๊งอาชญากรชาวจีน ขณะนี้ประชาชนบริเวณพรมแดนในฝั่งเมียนมากำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ยวดยานจำนวนมากต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปเติมน้ำมันที่ฝั่งไทย ชาวเมียวดีคนหนึ่งเผยว่า สามารถขับรถข้ามไปเติมน้ำมันในฝั่งไทยได้ แต่ห้ามเติมเป็นถังแกลลอน ที่ผ่านมารถในเมียวดีขับไปเติมน้ำมันที่ไทยอยู่เป็นปกติ แต่ขณะนี้มีรถจำนวนมากขึ้น และเข้าออกบ่อยครั้งขึ้น สิ่งที่ชาวเมียวดีต้องการคือน้ำมัน เมื่อเติมเสร็จก็ข้ามกลับ ชณะที่ชาวเมียวดีอีกคนคิดว่า ในอนาคตไทยอาจจะจำกัดจำนวนครั้งที่อนุญาตให้รถแต่ละคันข้ามไปเติมน้ำมัน สำนักข่าวท่าขี้เหล็กรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหมของไทยกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า ไทยจะห้ามการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู เป็นเวลา 6 เดือน.-814.-สำนักข่าวไทย