กลาโหม 30 พ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” สั่งเหล่าทัพเอาผิดโซเชียลแพร่ข้อมูลบิดเบือน-กวาดล้างยาเสพติด 3 จังหวัดชายแดนใต้
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการเป็นประธานการประชุมในกรอบอาเซียนของกระทรวงกลาโหม ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในปี 2562 เบื้องต้นกำหนดจัดประชุมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ กทม. นอกจากนี้ยังเห็นชอบร่างแผนการระดมสรรพกำลังของกลาโหม เพื่อให้สอดคล้องกับแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อป้องกันประเทศ รวมถึงการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ โดยให้ส่วนราชการของกลาโหมเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์และการส่งกำลังบำรุง ตั้งแต่ภาวะปกติ เพื่อใช้ในการเผชิญกับสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกลาโหมและเหล่าทัพสนับสนุนและเตรียมความพร้อมในการที่ประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนในปี 2562
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ติดตามพัฒนาการของภัยคุกคามด้านกิจการอวกาศ ที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และให้บูรณาการงานร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ รวมทั้งภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พัฒนาขีดความสามารถด้านกิจการอวกาศของกระทรวงกลาโหม ให้เป็นไปตามแผนงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะการพัฒนาองค์ความรู้และขีดความสามารถของกำลังพลจากระดับผู้ใช้งาน สู่การเป็นผู้ควบคุมและบริหารสถานีดาวเทียม เพื่อพัฒนาไปสู่การพึ่งพาตนเองและรองรับระบบงานความมั่นคงด้านอวกาศของประเทศในอนาคต เช่น การใช้ดาวเทียมสอดแนม ระบบขีปนาวุธนำวิถีด้วยดาวเทียมนำร่อง และระบบนำร่องอากาศยานไร้คนขับในการทิ้งระเบิดเป้าหมาย
“ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติดที่ยึดได้ช่วง 7 เดือนแรกของปี 61 เทียบกับปี 60 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งยาบ้า เฮโรอีน โดยเฉพาะยาไอซ์ เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า และจับได้ปริมาณมากในแต่ละครั้ง ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังร่วมกันเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำทุกเหล่าทัพให้ประสานการทำงานร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และตำรวจอย่างใกล้ชิด ในงานการข่าว และให้เพิ่มความเข้มข้นงานสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ควบคู่กับการติดตามปราบปรามกลุ่มอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามและเครือข่ายในพื้นที่ชั้นในให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนพื้นที่ภาคใต้ ได้กำชับให้ กอ.รมน.ภาค 4 ติดตามเส้นทางและปริมาณยาเสพติด ที่มีการลักลอบลำเลียงผ่านเข้าออกมากขึ้น และขอให้ประสานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อลดเงื่อนไขและความรุนแรงในพื้นที่” พล.ท.คงชีพ กล่าว
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีการส่งต่อข่าวสารที่เป็นเท็จ และการบิดเบือนข้อมูลที่กระทบความมั่นคง พล.อ.ประวิตร สั่งการให้หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงและ ผบ.เหล่าทัพ ติดตามความเคลื่อนไหวของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ต หากพบข้อมูลที่มีลักษณะอันเป็นเท็จ บิดเบือน สร้างความเข้าใจผิด ก่อให้เกิดความโกรธเกลียดกันในสังคม สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของกองทัพ อันกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ขอให้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมทั้งชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้สังคมทราบ.-สำนักข่าวไทย