ปปง.เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาระบาดอีกพร้อมเยียวยาผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า4แสนบาท

กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- ตำรวจส่งมอบเงินที่อายัดจากคนร้ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์คืนให้ผู้เสียหายจำนวนกว่า 400,000 บาท ขณะที่ปปง. ระบุมีแก็งคคอลเซ็นเตอร์กลับมาระบาดอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 10-20 ราย เสียหายกว่า 10 ล้านบาท


พลตำรวจเอกธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองโฆษก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ส่งมอบเงินบางส่วนของผู้เสียหายจำนวน 5 คน ในพื้นที่ สภ.พนมสารคราม จังหวัดฉะเชิงเทราถูกหลอกให้โอน 57,000 บาท อายัดได้เต็มจำนวน / สภ.เมืองนนทบุรีผู้เสียหาย 2 คน  ถูกหลอกให้โอน 47,600 และ 3 ล้านบาท อายัดคืนได้ กว่า 350,000 บาท //สน.สายไหม  ถูกหลอกให้โอน 9,984 บาท อายัดได้ 1,759 บาท และสน.บางเขนถูกหลอก 425,000 บาท อายัดได้ 49,000 บาท รวมผู้เสียหาย ที่ถูกแก็งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวง แล้วอายัดก่อนแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ถอนไปใช้ เป็นเงินกว่า 467,359 บาท การส่งมอบเงินคืนครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 16 

ขณะที่ผู้เสียหายส่วนใหญ่ที่สามารถอายัดเงินได้ทัน จะรู้ตัวว่าถูกคนร้ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในระยะเวลาประมาณ 15 ถึง 30 นาที จึงรีบโทรเข้าไปแจ้งที่สายด่วน 1710 และทางธนาคารเจ้าของบัญชี เพื่อให้อายัดเงิน แต่หากใช้เวลามากกว่านั้นเงินบางส่วนไปอาจถูกคนร้ายถอนออกไปได้


พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า แก็งคอลเซ็นเตอร์มีจุดเริ่มต้นมาจากมณฑลไห่หนาน ประเทศไต้หวัน และมีคนไทยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เป็นผู้ร่วมขบวนการในการเปิดบัญชีรับโอนเงิน ซึ่งตอนนี้รู้ตัวแล้ว เพราะ มีข้อมูลเส้นทางการเงินทั้งหมด 

ขณะที่รองโฆษก ปปง. ระบุว่า แก็งคอลเซ็นเตอร์เริ่มรวมตัวกันกลับเข้ามาก่อเหตุตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย10-20 ราย มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยให้เหยื่อไปเปิดบัญชีใหม่ และปิดบัญชีเก่า ก่อนจะให้โอนเงินเข้าบัญชีใหม่ที่ตัวเองเปิด เนื่องจากไม่มีคนไทยรับจ้างเปิดบัญชีแล้ว ซึ่งคนร้ายจะไปกดเงินที่ต่างประเทศ

สำหรับสถิติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งแต่วันที้ 8 ธันวาคม 2560 ถึง ปัจจุบันมีคดีเกิดขึ้น 445 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 235 ล้านบาท และในจำนวนนี้สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจากคนร้ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์คืนให้แก่ผู้เสียหายได้จำนวน 85 คนเป็นเงินกว่า 36 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

คุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวโจรมาเลย์ชิงทอง 138 บาท ในพื้นที่หาดใหญ่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบประวัติสุดแสบ ปล้นฆ่าที่มาเลเซียตั้งแต่อายุ 17 ยังหนีมาก่อเหตุซ้ำที่ไทยอีกหลายครั้ง

นายกฯ ขึ้น ฮ. ดูสภาพจราจรเดินทางสงกรานต์

นายกฯ ขึ้น ฮ. บินดูสภาพจราจร ถ.มิตรภาพ-เส้นทางขึ้นเหนือ-ลงใต้ เตรียมพร้อมประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์ พร้อมตรวจคืบหน้าก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 มั่นใจเปิดใช้เต็มรูปแบบ ปลายปี 68 ขณะ “สุริยะ” ยันปลอดภัย ไม่มีของตกหล่น สั่งหยุดก่อสร้างตลอด 24 ชั่วโมง

ผู้แทน สตง.แจงยิบสร้างตึก สตง. ยันเหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน

กมธ.ติดตามงบฯ ถกโครงการสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ ด้าน ‘ผู้แทน สตง.’ แจงยิบปรับสัญญาถึง 14 มิ.ย.นี้ ทั้งที่การสร้างต้องเสร็จ 31 ธ.ค.66 ยัน เหล็ก-ปูนมีมาตรฐาน ลั่นเดินหน้าสร้างต่อ แต่ปรับรูปแบบไม่สูง-ทับที่ตึกเก่า ใช้งบที่เหลือสร้าง