เงินทอนวัด 27 พ.ค. – ทนายความพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เตรียมยื่นเพิกถอนหมายจับ หลังยื่นขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต
ความคืบหน้าคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด หรือเงินทอนวัด มีรายงานว่า จากการสืบสวนด้วยเทคนิคพิเศษทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่า พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ อาจอยู่ภายในวัดสระเกศฯ นำไปสู่การขอหมายค้นเพื่อปูพรมค้นหาตัวพระพรหมสิทธิ 2 วัน ทั้ง 25 และ 26 แม้จะไม่พบตัวแต่สามารถเก็บดีเอ็นเอ และพบเอกสารสำคัญหลายอย่าง อาทิ Statement หรือรายงานการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง ที่เปิดบัญชีในนามชื่อวัด พบว่ามีการโอนเงินไปบัญชีของฆราวาสที่ถูกจับกุมไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง มียอดเงินตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน ถือว่าเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ
ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อ 23 พฤษภาคมก่อนเข้าจับกุมเพียง 1 วัน พระพรหมสิทธิ ได้ขึ้นรถยนต์สีดำ ไปกิจนิมนต์ย่านพุทธมณฑล ก่อนกลับเข้ามาช่วงเที่ยง จากนั้นนั่งรถกอลฟ์ออกไปฉันท์แล้วกลับเข้ามาที่กุฏิอีกครั้ง ทั้งนี้พระลูกวัดยืนยันว่าช่วงประมาณ 19.00 น.วันเดียวกัน เจ้าอาวาสยังอยู่ที่กุฏิ เนื่องจากมีคนขอเข้าพบ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดถูกลบไปตั้งแต่เวลา 20.00 น.จนถึงเช้าขของวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ตำรวจกองปราบนำกำลังเข้าจับกุม ซึ่งตำรวจจะสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป ขณะเดียวกันชุดสืบสวนได้กระจายกำลังลงพื้นที่ต่างๆที่ลูกศิษย์ของพระพรหมสิทธิ อาศัยอยู่รวมถึงลูกศิษย์ที่เป็นข้าราชการและตำรวจ เผื่อพระพรหมสิทธิ จะติดต่อเพื่อประสานขอมอบตัว
กรณีมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระชั้นผู้ใหญ่ 3 รูปมาจากคำให้การยืนยันของพยานที่พบพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวจริง แต่เอาผิดไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดเอาไว้
ทนายความพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เตรียมยื่นเพิกถอนหมายจับ ชี้ออกหมายจับโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ความคืบหน้าการยื่นขอประกันตัวชั่วคราว ของพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ล่าสุดนายโกศล ใสสุวรรณ ทนายความของพระพรหมดิลก ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นขอประกันตัวพระพรหมดิลกไปแล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต ขณะนี้ทางทีมทนายจึงอยู่ระหว่างดูข้อกฎหมาย เพื่อขอเพิกถอนหมายจับ เนื่องจากทางทีมทนายตั้งข้อสงสัยว่าการออกหมายจับครั้งนี้ จะมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะพระพรหมดิลก เป็นพระชั้นปกครอง ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ดังนั้นการสอบสวนดำเนินคดี จะต้องผ่านการไต่สวนของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิดก่อน ดังนั้นการที่ตำรวจไปขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อออกหมายจับคดีฟอกเงินโดยตรงนั้น ทีมทนายกำลังพิจารณาข้อกฎหมายอยู่ว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตำรวจมีอำนาจขอหมายจับโดยตรงหรือไม่ หากได้ข้อสรุปแล้วทีมทนายอาจจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ทั้งนี้หากเป็นการออกหมายจับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทีมทนายก็จะยื่นศาลขอเพิกถอนหมายจับ เพื่อให้การจับกุมตัวพระพรหมดิลก รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่น เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น และขอปล่อยตัวพระพรหมดิลกออกจากเรือนจำ
พระสังฆราช ห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา
เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผย สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา ขอให้ทุกฝ่ายเร่งทำความเข้าใจประชาชน พร้อมเดินหน้าประชุม มส.ตามปกติ 30 พ.ค.นี้ พิจารณาชี้ขาด ตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงทั้ง 2 วัด
พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน)ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)ในฐานะ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ถวายรายงาน กรณีพระสงฆ์หลบหนี และถูกดำเนินคดีต่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา แต่ในเรื่องของรายบุคคลก็ต้องว่ากันไป ส่วนภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนานั้น ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยทำความเข้าใจต่อประชาชน ส่วนเรื่องที่พระสงฆ์ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น พระพรหมมุนี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม ส่วนเรื่องการประกันตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั้น ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล ส่วนการประชุม มส.ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ก็ยังประชุมได้ตามปกติ เท่าที่มีองค์ประชุมเหลืออยู่
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ มหาเถรสมาคม หรือ มส. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ส่วนการพิจารณาตำแหน่งการปกครองของพระสงฆ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงิน ทุจริตงบอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่ กรรมการมหาเถรสมาคม 3 รูป ที่ยังมีตำแหน่ง เจ้าอาวาส และเจ้าภาคคณะ ประกอบด้วย พระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และรองเลขาธิการคณะธรรมยุตพระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และพระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพ มหานคร เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นอำนาจเจ้าคณะปกครองในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้ง 3 วัด เป็นพระอารามหลวง หากมีมติปลดหรือพักงานจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค จะต้องแจ้งเพื่อทราบในวาระการประชุมที่จะมีทั้งวาระปกติที่มหาเถรสมาคมต้องพิจารณา และวาระจร ที่กรรมการมหาเถรสมาคม ถือเข้าไปเสนอที่ด้วยตัวเอง ทำให้ต้องจับตาการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ว่าจะมีการพิจารณาปลดหรือสั่งพักทุกตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ 3 รูปหรือไม่ ส่วนในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ จะสรุปเหตุการณ์เกี่ยวกับคดีทั้งหมด เสนอไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ตั้งแต่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล พศ. เพื่อให้พิจารณา ว่าจะดำเนินการอย่างไร .- สำนักข่าวไทย