ทนายจ่อยื่นเพิกถอนหมายจับ เจ้าอาวาสวัดสามพระยา

เงินทอนวัด 27 พ.ค. – ทนายความพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เตรียมยื่นเพิกถอนหมายจับ หลังยื่นขอประกันตัวแต่ศาลไม่อนุญาต





ความคืบหน้าคดีทุจริตเงินอุดหนุนวัด หรือเงินทอนวัด มีรายงานว่า จากการสืบสวนด้วยเทคนิคพิเศษทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่า พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ อาจอยู่ภายในวัดสระเกศฯ นำไปสู่การขอหมายค้นเพื่อปูพรมค้นหาตัวพระพรหมสิทธิ 2 วัน ทั้ง 25 และ 26 แม้จะไม่พบตัวแต่สามารถเก็บดีเอ็นเอ และพบเอกสารสำคัญหลายอย่าง อาทิ Statement หรือรายงานการเคลื่อนไหวทางบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่ง ที่เปิดบัญชีในนามชื่อวัด พบว่ามีการโอนเงินไปบัญชีของฆราวาสที่ถูกจับกุมไปแล้วจำนวน 3 ครั้ง มียอดเงินตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้าน ถือว่าเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญ


ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อ 23 พฤษภาคมก่อนเข้าจับกุมเพียง 1 วัน พระพรหมสิทธิ ได้ขึ้นรถยนต์สีดำ ไปกิจนิมนต์ย่านพุทธมณฑล ก่อนกลับเข้ามาช่วงเที่ยง จากนั้นนั่งรถกอลฟ์ออกไปฉันท์แล้วกลับเข้ามาที่กุฏิอีกครั้ง ทั้งนี้พระลูกวัดยืนยันว่าช่วงประมาณ 19.00 น.วันเดียวกัน เจ้าอาวาสยังอยู่ที่กุฏิ เนื่องจากมีคนขอเข้าพบ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดถูกลบไปตั้งแต่เวลา 20.00 น.จนถึงเช้าขของวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ตำรวจกองปราบนำกำลังเข้าจับกุม ซึ่งตำรวจจะสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป ขณะเดียวกันชุดสืบสวนได้กระจายกำลังลงพื้นที่ต่างๆที่ลูกศิษย์ของพระพรหมสิทธิ อาศัยอยู่รวมถึงลูกศิษย์ที่เป็นข้าราชการและตำรวจ เผื่อพระพรหมสิทธิ จะติดต่อเพื่อประสานขอมอบตัว

กรณีมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระชั้นผู้ใหญ่ 3 รูปมาจากคำให้การยืนยันของพยานที่พบพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวจริง แต่เอาผิดไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายข้อใดเอาไว้

ทนายความพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เตรียมยื่นเพิกถอนหมายจับ ชี้ออกหมายจับโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ความคืบหน้าการยื่นขอประกันตัวชั่วคราว ของพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ล่าสุดนายโกศล ใสสุวรรณ ทนายความของพระพรหมดิลก ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นขอประกันตัวพระพรหมดิลกไปแล้ว แต่ศาลไม่อนุญาต ขณะนี้ทางทีมทนายจึงอยู่ระหว่างดูข้อกฎหมาย เพื่อขอเพิกถอนหมายจับ เนื่องจากทางทีมทนายตั้งข้อสงสัยว่าการออกหมายจับครั้งนี้ จะมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะพระพรหมดิลก เป็นพระชั้นปกครอง ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ดังนั้นการสอบสวนดำเนินคดี จะต้องผ่านการไต่สวนของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อชี้มูลความผิดก่อน ดังนั้นการที่ตำรวจไปขอศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อออกหมายจับคดีฟอกเงินโดยตรงนั้น ทีมทนายกำลังพิจารณาข้อกฎหมายอยู่ว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตำรวจมีอำนาจขอหมายจับโดยตรงหรือไม่ หากได้ข้อสรุปแล้วทีมทนายอาจจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

ทั้งนี้หากเป็นการออกหมายจับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทีมทนายก็จะยื่นศาลขอเพิกถอนหมายจับ เพื่อให้การจับกุมตัวพระพรหมดิลก รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่รูปอื่น เป็นกระบวนการที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น และขอปล่อยตัวพระพรหมดิลกออกจากเรือนจำ

      

พระสังฆราช ห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา

เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผย สมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา ขอให้ทุกฝ่ายเร่งทำความเข้าใจประชาชน พร้อมเดินหน้าประชุม มส.ตามปกติ 30 พ.ค.นี้ พิจารณาชี้ขาด ตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวงทั้ง 2 วัด

 

พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน)ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธฯ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.)ในฐานะ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ถวายรายงาน กรณีพระสงฆ์หลบหนี และถูกดำเนินคดีต่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อัมพโร) แล้ว ซึ่งพระองค์ทรงห่วงใยสถานการณ์พระพุทธศาสนา แต่ในเรื่องของรายบุคคลก็ต้องว่ากันไป ส่วนภาพลักษณ์ของพระพุทธศาสนานั้น ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยทำความเข้าใจต่อประชาชน ส่วนเรื่องที่พระสงฆ์ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น พระพรหมมุนี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติม ส่วนเรื่องการประกันตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่นั้น ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของศาล ส่วนการประชุม มส.ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ ก็ยังประชุมได้ตามปกติ เท่าที่มีองค์ประชุมเหลืออยู่

นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการ มหาเถรสมาคม หรือ มส. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ส่วนการพิจารณาตำแหน่งการปกครองของพระสงฆ์ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาฟอกเงิน ทุจริตงบอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยเฉพาะพระชั้นผู้ใหญ่ กรรมการมหาเถรสมาคม 3 รูป ที่ยังมีตำแหน่ง เจ้าอาวาส และเจ้าภาคคณะ ประกอบด้วย พระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และรองเลขาธิการคณะธรรมยุตพระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ และพระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพ มหานคร เจ้าอาวาสวัดสามพระยา เป็นอำนาจเจ้าคณะปกครองในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้ง 3 วัด เป็นพระอารามหลวง หากมีมติปลดหรือพักงานจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะภาค จะต้องแจ้งเพื่อทราบในวาระการประชุมที่จะมีทั้งวาระปกติที่มหาเถรสมาคมต้องพิจารณา และวาระจร ที่กรรมการมหาเถรสมาคม ถือเข้าไปเสนอที่ด้วยตัวเอง ทำให้ต้องจับตาการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ว่าจะมีการพิจารณาปลดหรือสั่งพักทุกตำแหน่งทางการปกครองสงฆ์ของพระผู้ใหญ่ 3 รูปหรือไม่ ส่วนในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ จะสรุปเหตุการณ์เกี่ยวกับคดีทั้งหมด เสนอไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ตั้งแต่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการ พศ. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแล พศ. เพื่อให้พิจารณา ว่าจะดำเนินการอย่างไร .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]