กรุงเทพฯ 26 พ.ค. – ประธานสถาบันอัญมณีฯ กระตุ้นผู้ประกอบการอัญมณีไทยใช้เอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย ตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติเชื่อมั่นในสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
นายราเชนทร์ พจนสุนทร ประธานสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือจีไอที กล่าวในงานสัมมนา What’s Hot Hit ก้าวสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยในตลาดโลกในปี 2018 โดยมีผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจเข้ารับฟังจำนวนมาก โดยเน้นย้ำภารกิจของจีไอทีต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยจะต้องมุ่งเน้นที่จะพัฒนาผู้ประกอบการในภูมิภาคต่าง ๆ ต้องใช้เอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นจุดขาย เพื่อช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ซื้อทั้งคนไทยและต่างชาติ ผ่านโครงการ Buy with confidence โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในประเทศไทยปีละกว่า 35 ล้านคน และมีเม็ดเงินของภาคอุตสาหกรรมนี้แต่ละปีถึง 1 ล้านล้านบาท โดยในจำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยไปตลาดต่างประเทศและมีแนวโน้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงระมัดระวังการใช้จ่ายแต่ยอดการส่งออกกลุ่มสินค้าเหล่านี้ไม่ได้รับลดลงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีจุดแข็งและจุดเด่น 2 ด้าน คือ ภาคการเกษตรโดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เพราะไทยถือเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรตามธรรมชาติและส่วนที่ 2 เป็นเรื่องบริการที่รวมเอาเอกลักษณ์ ประเพณีวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์ ดังนั้น สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ควบคู่กันไป จึงเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมนี้จะอยู่กับไทยไปอีกนาน และสามารถสร้างมูลค่าให้กับคนไทยอย่างมหาศาล มีการจ้างแรงงานจำนวนมาก ทำให้เกิดความยั่งยืนของชุมชน ซึ่งทางสถาบันฯ พร้อมที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้เข้มแข็งและช่วยแนะนำแก้ไขปัญหา เป็นตัวกลางประสานงานทุกด้านเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างความมั่นใจให้กับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยเป็นที่ยอมรับของคนไทยและชาวต่างชาติแบบยั่งยืนและยาวนานกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย