กรุงเทพฯ 24 พ.ค.-ประธานกสม.ระบุรัฐประหารผ่านไป 4 ปีแล้ว ขอคสช.-รัฐบาลผ่อนปรนการชชุมนุมการเมืองโดยสงบ ชี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังนำไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส.
นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้กล่าวถึง 4 ปีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กับสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต่อกรณีที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเรียกร้องให้เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ภายในปลายปี 2561 ว่า ผู้ชุมนุมได้แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้รับผิดชอบตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะพ.ศ. 2558 แล้ว แต่ตำรวจกำหนดเงื่อนไขไว้ โดยห้ามจัดการชุมนุมทางการเมือง และห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมในลักษณะที่ขัดต่อกฎหมาย
“ผู้ชุมนุมได้ฟ้องต่อศาลปกครองกลางขอให้ยกเลิกเงื่อนไขการชุมนุม อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไปยังทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แต่ศาลปกครองกลางไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 44 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ แต่มีข้อยกเว้นอยู่ 4 ข้อ ที่รัฐจะจำกัดเสรีภาพดังกล่าวได้ คือ เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น ซึ่งสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคีข้อ 21” ประธานกสม. กล่าว
นายวัส กล่าวว่า คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 อันเป็นเวลาหลังการรัฐประหารไม่นาน โดยห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เว้นแต่เป็นการชุมนุมที่ได้รับอนุญาต ผู้ฝ่าฝืนมีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขณะนี้การรัฐประหารได้ล่วงเลยมา 4 ปี และสถานการณ์บ้านเมืองได้พัฒนาไปสู่โหมดการเลือกตั้งส.ส.แล้ว จึงควรที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะได้ผ่อนปรนให้ชุมนุมทางการเมืองได้ในระยะยาว ควรแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องการห้ามชุมนุมทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย
