ธนาคารออมสิน 23 พ.ค.- ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup เป็นครั้งแรกของธนาคารออมสิน
พบว่า ไตรมาสแรกตัวเลขออกมาดี ระดับ 62.16 สูงกว่าค่ากลาง 50
แสดงความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ประกอบการ ส่วนความเชื่อมั่นอีก 3
เดือนข้างหน้าก็ยังมีมุมมองที่ดีของนักธุรกิจกลุ่มนี้อยู่
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า “ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ
ธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน
ได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup (SSI) เป็นครั้งแรก
ภายหลังจากที่ได้มีการจัดทำการประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) และดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานราก (GSI) ซึ่งผลการสำรวจประจำไตรมาส 1 ปี 2561 จากกลุ่มผู้ประกอบการ
Startup ทั่วประเทศ 423 ตัวอย่าง พบว่า ดัชนี SSI อยู่ที่ระดับ 62.16 ซึ่งกว่าค่ากลางที่ระดับ 50
แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการ Startup มีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางธุรกิจโดยรวมจากปัจจัยด้านผลประกอบการ
ด้านการผลิต และด้านคำสั่งซื้อที่อยู่ในระดับดี โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น
ธุรกิจการเงิน การขนส่งและ โลจิสติกส์ การศึกษา และการท่องเที่ยว
เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในด้านการตลาด และการให้บริการ อย่างไรก็ตาม
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของธุรกิจที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับ SSI ในอนาคตอีก 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการ Startup
มีมุมมองต่อภาวะธุรกิจ Startup
ในภาพรวมดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 67.75
โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการผลิตและคำสั่งซื้อที่ผู้ประกอบการคาดว่าจะมีมากขึ้น
โดยเฉพาะในธุรกิจการแพทย์/สาธารณสุข ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจการเงิน
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคาดการณ์ว่าต้นทุนการประกอบการยังไม่น่าจะลดลงจากปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาในแต่ละภาคธุรกิจ ได้แก่ อุตสาหกรรม การเกษตร การค้า
และบริการ พบว่า ผู้ประกอบการ Startup ในภาคบริการมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ธุรกิจอยู่ที่ระดับ
68.73 ซึ่งสูงกว่าภาคธุรกิจอื่นที่อยู่ระดับ 57.9-60.5 อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ Startup
ยังคงมีข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง
การเพิ่มขึ้นของต้นทุน และคู่แข่งขัน
รวมถึงการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือและทักษะเฉพาะทาง
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยฯ มองว่ายังมีประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังติดตามคือปัจจัยทางด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ
Startup ที่สูงขึ้น
ทั้งจากค่าแรง อุปกรณ์การผลิต ราคาน้ำมัน และค่าขนส่ง
อีกทั้งยังมีอุปสรรคที่รอการแก้ไขในด้านกำลังการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้สั่งซื้อ
นอกจากนี้ผู้ประกอบการ Startup ยังคงต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนในด้านเงินทุนหรือร่วมลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและลงทุนเพิ่มเติมในด้านเครื่องจักร
และอุปกรณ์ อีกทั้งสนับสนุนด้านการหาตลาดและเพิ่มความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น–สำนักข่าวไทย