พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-แม้ว่าเหตุการณ์สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ข้ามแม่น้ำป่าสักที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ถล่ม จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ผ่านไปแล้วถึง 3 ปี แต่ทุกวันนี้ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังคงเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรม
เมษายน 2556 เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ที่เชื่อมระหว่างหมู่ 5 กับหมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ถล่มลงกลางแม่น้ำป่าสัก ขณะชาวบ้านกำลังสัญจร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ระบุสาเหตุเกิดจากการซ่อมแซมสะพานไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและขาดวิศวกรควบคุม ทำให้ลวดสลิงแต่ละเส้นรับน้ำหนักไม่สมดุล ขาดสะบั้น และทำให้สะพานถล่ม แม้เวลาล่วงเลยมานานถึง 3 ปี แต่ความเจ็บปวดของครอบครัวเสือสมิง ที่สูญเสียลูกสาวในวัยเพียง 10 ขวบ ยังไม่จางหาย แม่ทำใจไม่ได้ ต้องลาออกจากงานประจำ หันกลับมาดูแลสุขภาพ หวังให้ลูกสาวกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยังเดินหน้าเรียกร้องของความเป็นธรรม
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง กรณีนายกเทศมนตรี ต.ท่าหลวง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องไม่ออกคำสั่งปิดสะพาน ทั้งๆ ที่ทราบว่าสะพานชำรุดอยู่แล้ว จนทำให้พังถล่มลงมา
ล่าสุด สภาวิศวกรสั่งเพิ่กถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมของ 3 วิศวกร คือ นายอนุวัติ วิชัยโย, นายสันติธรรม สีนวลสกุลณี ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง เนื่องจากทำผิดข้อบังคับของสภาวิศวกร และนายวรพจน์ นุชิต ผู้ออกแบบสะพาน
หลังสะพานดังกล่าวถล่ม ก็ได้มีการก่อสร้างสะพานปูนขึ้นมาทดแทน พร้อมทั้งรื้อสะพานลักษณะเดียวกันอีกแห่งหนึ่งออก เพื่อป้องกันการเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำ.-สำนักข่าวไทย