วาง 3 แนวทางขับเคลื่อนสื่อปลอดภัย

กทม.18พ.ค.-ภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสนอ 3 แนวทาง เน้นบูรณาการกลไกเฝ้าระวังสื่อ ปฏิรูปกระบวนการรู้เท่าทันสื่อในสังคม โดยเฉพาะการป้องกันคุ้มครองเด็กเยาวชนกับสื่อออนไลน์


กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ NIDA เปิดเวทีประชุมภาคีเครือข่ายภาครัฐในการขับเคลื่อนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีจุดประสงค์พัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและวิชาการในการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดปัญหาที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือ ของสื่อที่มีออกมาจากหลากหลายช่องทาง 


นายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวถึงปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้รับสารผู้ผลิตและสื่อหลอมรวมกัน จนการกำกับดูแลไม่สามารถแยกสื่อประเภทใดประเภทหนึ่งได้โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ที่มีมากจนส่งผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งการควบคุมกำกับดูแลในการปฏิรูป เป็นเรื่องท้าทายในประเทศไทย และการระดมความคิดเห็นจากองค์กรภาครัฐและหน่วยงานทางวิชาการ จะได้กำหนดแนวทางในการปฏิรูปสื่อได้ชัดเจนมากขึ้น  


โดยวางเป็น 3 แนวทาง คือ 1.การบูรณาการกลไกเฝ้าระวังสื่อ ทั้งในส่วนของผู้ผลิตสื่อเองที่ต้องตั้งอยู่บนจรรยาบรรณและความรับผิดชอบในการผลิตสื่อ ท่ามกลางการแข่งขันของสงครามสื่อดิจิทัลทุกรูปแบบ 2.ปฏิรูปกระบวนการและรูปแบบ การรู้เท่าทันสื่อในสังคมไทย ตั้งเป้าให้ผู้รับสาร หรือผู้บริโภค มีขั้นตอน กระบวนการ ในการกลั่นกรอง ในการรับสาร ที่มีส่งผ่านในทุกช่องทางได้อย่างถูกต้องโดยเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงของข่าวสารทุกครั้งก่อนที่จะเชื่อในข้อมูลข่าวสารดังกล่าว และ 3.การปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการบริโภคสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเด็กและเยาวชนหาก รับข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นพิษภัยอาจจะส่งผลต่อมุมมองความคิด และเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีคุณภาพ

ด้านนาย วสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คาดหวังให้เวทีการระดมความคิดเห็นในการปฏิรูปสื่อปลอดภัยจะทำให้ทุกองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มองเห็นถึงปัญหาสำคัญในการทำงานสื่อมวลชนท่ามกลางการแข่งขันในสงครามสื่อยุคดิจิทัล ซึ่งต้องทำงานแข่งขันเพื่อให้ตนเองอยู่รอด พร้อมย้ำว่าแม้สื่อเองจะแข่งขันกัน แต่ต้องไม่ลืมจรรยาบรรณจริยธรรมอันดีในการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนที่ต้องเป็นผู้ชี้นำสังคม   มิเช่นนั้นแล้วอาจจะไม่สามารถเรียกตนเองว่าเป็นสื่อได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเวทีครั้งนี้ยังคาดหวังให้ผู้บริโภค ร่วมมือกันตรวจสอบเฝ้าระวังสื่อที่ไม่มีคุณภาพและเป็นภัยให้หมดไปจากสังคมไทย 

สำหรับแผนการปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศเป็น 1ในประกาศแผนยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหมวดที่16 ที่ได้กำหนดให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศและให้ดำเนินการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆให้เกิดผลตามที่กำหนด ซึ่งแผนดังกล่าวเป็นไปตามกำหนดในมาตรา 6 วรรค 2  แห่งพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศพ.ศ.2560 ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2561 กำหนดการปฏิรูปสื่อ 6 ด้าน ได้แก่การปฏิรูปการรู้เท่าทันสื่อของประชาชน แนวทางการส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อ ปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ ปฏิรูปแนวทางการกำกับดูแลสื่อออนไลน์ การปฏิรูปการบริหารจัดการความปลอดภัยไซเบอร์ กิจการอวกาศ และระบบและเครื่องมือด้านการสื่อสารมวลชนและโทรคมนาคมเพื่อสนับสนุนภารกิจการป้องกันบรรเทาสาธารณภัย และการปฏิรูป ระบบการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร