เลขาฯ สภา ทบทวนงบไอทีรัฐสภาแห่งใหม่

รัฐสภา 18 พ.ค.- เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สั่งรองเลขาฯ เร่งทบทวนงบไอทีสภา 1 สัปดาห์ ก่อนปรึกษาสำนักงบประมาณและนำเสนอกลับเข้า ครม. ยอมถอยไม่เอานาฬิกา และไมค์สเปคสูงราคาแพง ย้ำต้องเร่งของบทำระบบไอทีก่อนชิโน-ไทยปิดฝ้า และต้องทำระบบให้เสร็จพร้อมใช้เบื้องต้นปลายปีนี้ มั่นใจเสร็จทันส.ส.ชุดใหม่เข้าใช้ 


นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีที่คณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติงบประมาณ จำนวจ 8,135.56 ล้านบาท ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอขอในส่วนงานของระบบสาธารณูปโภค ไฟรอบอาคาร เครื่องปรับอากาศและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยให้กลับไปทำรายละเอียดให้ชัดเจนว่า พร้อมรับฟังความเห็นจากคณะรัฐมนตรี และไม่ดื้อ จะนำงบประมาณการติดตั้งระบบไอทีและสาธารณูปโภคมาปรับปรุง ก่อนที่จะออกแบบได้จ้างบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งพิจารณาตามความต้องการของสมาชิก และระบบสารสนเทศ มีการสืบราคามาหลายสถานที่ ให้สอดคล้องกับความต้องการของสมาชิก และเพื่อความปลอดภัย แต่เมื่อมีการท้วงติงว่าราคาสูง  ก็ยินดีที่จะปรับลด ทบทวน และไม่เอานาฬิกาและทีวีตามสเปคที่กำหนดมา

เลขาธิการสภาฯ กล่าวว่า มอบหมายให้นายสุชาติ โรจน์ทองคำ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาทบทวนปรับลดรายละเอียด และยังสามารถตอบภารกิจได้ ซึ่งน่าจะสรุปได้ภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะได้ปรึกษาสำนักงบประมาณและส่งกลับไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร่งด่วน เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อย้ายข้าราชการ ออกจากอาคารรัฐสภาปัจจุบัน ไปอยู่ที่อาคารรัฐสภาใหม่ ที่เกียกกาย หากย้ายไปอยู่ที่อื่นเป็นการชั่วคราว จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามมาอีกมหาศาล 


“เมื่อนาฬิกาแพง ทีวีแพง ผมก็ไม่เอา ผมยินดีที่จะปรับลดทบทวนทุกเรื่องเพื่อให้ลดงบประมาณลงมาตามความจำเป็นและเหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้ อาจจะกลับมายุค HD  แอนะล็อก ตามที่จะไปได้ เพราะวาดฝันว่าห้องประชุมจะไม่มีสายไฟ เผื่อไฟรั่ว สมาชิกตายจะว่าอย่างไร แต่หากจำเป็นต้องใช้แบบนี้ ก็ต้องไป เรื่องไอซีที ถ้าลดได้ ก็ต้องลด ทำงานในกรอบที่สามารถจะทำได้” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าว 

นายสรศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นกังวลในขณะนี้คือ ปัญหาที่จะต้องเร่งนำระบบไอทีเข้าไปก่อนที่ทางบริษัทชิโน-ไทยฯ จะปิดฝ้าเพดาน ซึ่งครบกำหนดมา 2 เดือนแล้ว และทางบริษัทแจ้งว่าจะขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งได้ประสานและขอร้องเป็นการภายใน เพราะหากปิดฝ้าแล้วจะต้องรื้อ ซึ่งทางบริษัทจะไม่ยอมให้รื้อ เนื่องจากบริษัทชิโน-ไทย จะต้องเร่งก่อสร้างในส่วนของโครงสร้างต่าง ๆ ให้เสร็จตามกำหนดเวลา ซึ่งยืนยันว่าห้องประชุมบางส่วน จะเสร็จภายในสิ้นปีนี้ และห้องสุริยันต์จะเสร็จในเดือนมีนาคม 2562  เพื่อให้ทันการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์2562 ให้ได้ 

ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า งบประมาณที่สูงเพราะตั้งงบประมาณ 2 สำนักงานทั้งสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา และเมื่อก่อสร้างไปแล้วมีบางส่วนที่ต้องทำให้อาคารสมบูรณ์จึงเพิ่มเติมงบประมาณลงไป และตามแผนการจะต้องก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2562 แต่มีความจำเป็นว่าจะต้องย้ายไปใช้อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ปลายปีนี้ จึงต้องขยับแผนงานทั้งหมด ทำให้กระทบกับการบริหารงานไอซีทีที่เคยวางแผนไว้ในระยะยาว ซึ่งเรื่องเวลาสามารถแก้ปัญหาได้ แต่เรื่องงบประมาณอยู่นอกเหนือการควบคุม  


รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะต้องดูภาพรวมของงบประมาณทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า แม้จะต้องปรับลดงบประมาณลง แต่ภารกิจจะต้องยังคงอยู่ครบถ้วน เรื่องราคาต้องเปรียบเทียบกับตลาดและตอบสังคมได้ ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบเปรียบเทียบราคาก่อน  และต้องระมัดระวังเรื่องคุณภาพของวัสดุที่ต้องสามารถใช้งานได้ตามภารกิจและระยะเวลา 

“ยอมรับว่านาฬิกาที่ซื้อสมัยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาฯ ที่ถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องการทุจริตมีลักษณะภายนอกคล้ายกัน แต่ผิดในเรื่องของลักษณะการประมูล จึงมีปัญหา บริษัทที่เสนอขายไม่มีคุณสมบัติในการจำหน่าย แต่กรณีนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ เป็นเพียงการของบประมาณ ซึ่งยืนยันว่าการจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปตามระเบียบ” นายสุชาติ กล่าว

นายพรเทพ ฤทัยเจริญลาภ ผู้จัดการโครงการออกแบบระบบไอซีที (บริษัท เมอร์ลินส์ โซลูชั่นส์ อินเตอร์แนชั่นนัล จำกัด) ชี้แจงระบบนาฬิกาที่ราคาแพงว่า เป็นระบบดิจิทัล รับสัญญาณดาวเทียมและกระจายให้นาฬิกาทุกเรือนเพื่อให้เวลาตรงกัน รวมถึงอุปกรณ์คอมทั้งหมดจะใช้ระยะเวลาเดียวกัน จะทำให้เวลาที่ใช้ในรัฐสภาเป็นเวลาเดียวกัน เพราะเรื่องเวลาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการเปิดโหวตปิดโหวต ขณะที่ไมโครโฟน เสียงคมชัด แสดงตัวตนว่าใครใช้ไมค์ ถือเป็นการแสดงตัวตน ป้องกันการเสียบบัตรแทนกัน ส่วนทีวีที่แพง เพราะบางครั้งการประชุมต่อเนื่องอาจจะข้ามวัน จึงจำเป็นต้องเลือกทีวีที่มีสเปคสูง คงทน สีไม่เพี้ยน และก่อนที่จะกำหนดงบประมาณ ได้มีการสอบถามราคาตลาดก่อน 

นายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้มีกรอบเวลาที่จะต้องเร่งรัดงานจากอู่ทองในไปยังที่ใหม่ภายในสิ้นปี ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 7 เดือน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดให้ได้งบประมาณเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนงาน 

นางพรรษมนต์ ไทยวัฒนานุกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันของบประมาณตามความจำเป็นและเพิ่มเติมในส่วนที่ยังไม่ได้ออกแบบไว้ เดิมออกแบบไว้ไม่ครบถ้วน จึงจำเป็นต้องทำให้ครบ บูรณาการระบบข้อมูลของสองสำนักงาน จึงต้องจัดทำและปรับปรุงฐานข้อมูล ยืนยันว่าเมื่อได้งบประมาณมาก็ดำเนินการตามกฎหมาย มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่มีการทุจริต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย