เศรษฐกิจขาขึ้นยอดจดทะเบียนทั้งปี 80,000 ราย ได้แน่

นนทบุรี 18 พ.ค.-อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตัวเลขจดทะเบียนโตต่อเนื่องจากเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้นและแนวทางส่งเสริมจากภาครัฐ จะส่งผลให้ยอดจดทะเบียนทั้งปีโตมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้จาก 75,000 รายเป็น 80,000 ราย 


นางกุลณี  อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า ยอดการจดทะเบียนธุรกิจนิติบุคคลตั้งใหม่ทั่วประเทศ ประจำเดือน เมษายน 2561 มีทั้งสิ้น 5,120 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2561 จำนวน 6,728 ราย ลดลงจำนวน 1,608 ราย คิดเป็นร้อยละ 24 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2560 จำนวน 4,783 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 337 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 471 ราย คิดเป็น  ร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 293 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และอันดับ 3 มี 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร และธุรกิจภัตตาคาร / ร้านอาหาร จำนวน 126 รายเท่ากัน คิดเป็นร้อยละ 2

ขณะที่มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่  ในเดือนเมษายน 2561  มีจำนวนทั้งสิ้น 36,362 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2561 จำนวน 25,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 11,107 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2560  จำนวน 21,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 14,530 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67 ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีจำนวน 5,019 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.03 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 82 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.60 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 19 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.37 โดยมีธุรกิจที่ทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท จำนวน 8 ราย ได้แก่ ธุรกิจโฮลดิ้ง จำนวน 4 ราย ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เคมีธุรกิจขายส่งเครื่องแก้ว ธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร และธุรกิจค้าอาหาร ขนมและเครื่องปรุงรสอาหาร ธุรกิจละ 1 ราย


อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เม.ย.61) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 699,511 ราย  มูลค่าทุน 17.55 ล้านล้านบาท  จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 184,942 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.44  บริษัทจำกัด จำนวน 513,382 ราย คิดเป็นร้อยละ 73.39  และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,187 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17 โดยธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 617,978 ราย คิดเป็นร้อยละ 88  รวมมูลค่าทุน 1.00 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6  รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 67,191 ราย  คิดเป็นร้อยละ 10 รวมมูลค่าทุน 1.80 ล้านล้านบาท  คิดเป็นร้อยละ 10 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท  จำนวน 14,342 ราย คิดเป็นร้อยละ 2 รวมมูลค่าทุน 14.75 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 84 ตามลำดับ 

ทั้งนี้ จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ  มีจำนวน 795 ราย  เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2561 จำนวน 928 ราย ลดลงจำนวน 133 ราย คิดเป็นร้อยละ 14  และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน  2560 จำนวน 878 ราย ลดลงจำนวน 83 ราย  คิดเป็นร้อยละ 9   โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก  ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 72 ราย คิดเป็นร้อยละ 9 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 56 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และธุรกิจภัตตาคาร  ร้านอาหาร จำนวน 22 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ โดยมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ  ในเดือนเมษายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 7,893 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2561 จำนวน 3,169 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 4,724 ล้านบาท คิดเป็น 1.5 เท่า และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2560  จำนวน 3,952 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจำนวน 3,941 ล้านบาท คิดเป็น 1 เท่า ซึ่งธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท จำนวน 739 ราย คิดเป็นร้อยละ 93 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 46 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 1

ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.- เม.ย.61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 25,169 ราย  เพิ่มขึ้น จำนวน 1,584 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.60)  ซึ่งมีจำนวน 23,585 ราย กรมจึงคาดว่าแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในปี 2561 จะมีไม่น้อยกว่า 75,000 ราย ซึ่งสอดคล้องอัตราการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา และประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตที่สะท้อนจากการปรับเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2561  โดยสถาบันชั้นนำของโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF)  ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของไทยเป็นร้อยละ 3.9 จากเดิมร้อยละ 3.5 และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ปรับเป็นร้อยละ 4.0 จากเดิมร้อยละ 3.8 นอกจากนี้กรมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ ได้ดำเนินการปรับปรุงความยาก-ง่ายในการทำธุรกิจ (Ease of Doing business)  เพื่ออำนวยความสะดวกในการเริ่มต้นประกอบธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ โดยกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนเป็นอัตราคงที่ (Flat Rate) และลดอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์อีกร้อยละ 30ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2561 รวมทั้งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการ ให้ขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคลต่ออีก 1 ปี  โดยสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 คาดว่าหากมาตรการมีความชัดเจนจะช่วยผลักดันให้เกิด การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 รายได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]