กรุงเทพฯ 17 พ.ค.- รำลึก 26 ปี พฤษภาประชาธรรม ยกเป็นบทเรียนก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าผลักดันก่อสร้างสวนสันติพรให้เสร็จสิ้น เพื่อเรียนรู้ว่า สันติภาพ ความยุติธรรมคือตอบคำตอบของสังคมไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17พ.ค.) พรรคการเมืองและหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมใจกันวางพวงมาลาสดุดีวีรชนพฤษภาประชาธรรม ณ อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม (สวนสันติพร) รำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เดือน พฤษภาคม 2535 ซึ่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ได้กระทำความรุนแรงต่อประ ชาชนจนเกิดการสูญเสีย บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยคณะรัฐมนตรี มีมติ วันที่ 30 ธันวาคม 2546 รัฐบาลได้กำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวัน “พฤษภาคมประชาธรรม”
นายโคทม อารียา ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 จัดพิธีรำลึกพฤษภาประชาธรรม ปีที่ 26 ที่สวนสันติพร อนุสรณ์พฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน โดยนายโคทม กล่าวว่า ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้พยายามเยียวยาบาดแผลที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ เพื่อให้รับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงบางครั้งอาจมีความเสียหายเกิดขึ้น และสังคมควรรำลึกถึงบทเรียน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงทางการเมืองนั้นอีก มูลนิธิฯ จะเดินหน้าผลักดันการก่อสร้างสวนสันติพรให้เสร็จสิ้น เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังเรียนรู้ว่า สันติภาพ ความยุติธรรมคือตอบคำตอบของสังคมไทย
ขณะเดียวกัน ผู้แทนภาครัฐ กองทัพบก ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา และพรรคการเมือง ได้ร่วมวางพวงมาลา และกล่าวรำลึกวีรชนพฤษภาประชาธรรม
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยกย่องการต่อสู้ของประชาชนเดือนพฤษภา’35 ว่า เป็นอีกตัวอย่างที่ประชาชนใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องเจตนารมณ์ของประชาชน แต่เหตุการณ์นั้นกลับนำมาซึ่งความสูญเสีย สังคมจึงควรเรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ และก้าวข้ามความขัดแย้ง ผลักดันให้มีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย รวมถึงพรรคการเมือง ที่จะต้องช่วยกันสานต่อการสร้างอนุสรณ์สถานให้สำเร็จ เพื่อให้สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เรียนรู้ประวัติการเมืองไทย และช่วยกันทำให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่ก้าวหน้า
นายวรชัย เหมะ ผู้แทนพรรคเพื่อไทย คาดหวังว่า จะไม่มีความรุนแรง ความสูญเสีย เหมือนเหตุการณ์ พฤษภา’35 อีกเพราะประเทศชาติจะเสียหาย และเรียกร้องถึงฝ่ายความมั่นคง ให้ดูแลความเรียบร้อยของการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ด้วยวิธีสันติ เพราะการเรียกร้อง ก็เพื่อต้องการประชาธิปไตยให้กลับคืนมา
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชื่อว่า เหตุความรุนแรงเหมือนในอดีต จะไม่กลับมาอีก และสังคมจะมีความปรองดองขึ้น เพราะสังคมได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดในอดีตจากความรุนแรง และรู้สึกดีใจที่กองทัพบก ได้มาร่วมงานในวันนี้
ทั้งนี้ เหตุการณ์ “พฤษภาประชาธรรม” หรือ “พฤษภาทมิฬ” เป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เพื่อต่อต้านรัฐบาลของพลเอกสุจินดา คราประยูร จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองไทยในเวลาต่อมา.-สำนักข่าวไทย