กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – กรมชลประทานเตือนลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างรับมือระดับน้ำจะสูงขึ้น เหตุฝนตกหนักตอนบนและน้ำเหนือไหลหลาก คาดระดับน้ำเจ้าพระยาตอนล่างจะสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร พร้อมพร่องน้ำเขื่อนป่าสักฯ รองรับฝนตกหนักอีกระลอก
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาปัจจุบัน (28 ก.ย. 59) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 1,788 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแม่น้ำสะแกกรัง 368 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งกรมชลประทานควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่จากการคาดการณ์สภาวะฝนของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) วันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2559 ความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวขึ้นไปบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมชลประทานประเมินสถานการณ์น้ำที่จะเกิดจากปริมาณฝนตกตามที่ทั้ง 2 หน่วยงานคาดการณ์ว่าที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะสูงสุดประมาณ 2,155 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่คาดว่าจะมีปริมาณน้ำสูงสุดประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีปริมาณน้ำไหลสู่เขื่อนเจ้าพระยารวมประมาณ 2,555 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 ระหว่างนี้จึงจำเป็นต้องทยอยเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเป็นลำดับ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ทั้งนี้ จะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร และยังคงต้องเฝ้าระวังหากมีฝนตกลงเพิ่มจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่าเกณฑ์ดังกล่าว
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรมชลประทานคาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนช่วงวันที่ 27 กันยายน–11 ตุลาคม 2559 รวมประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร มีโอกาสที่น้ำจะเต็มเขื่อนป่าสักฯ วันที่ 8 ตุลาคม 2559 หากยังคงการระบายที่ 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จึงจำเป็นต้องปรับแผนการระบายน้ำเพิ่มเป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลมารวมกับปริมาณน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในเกณฑ์ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหกลงมาจนถึงจุดบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1– 1.50 เมตร เขื่อนป่าสักฯ ขณะนี้มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ร้อยละ 76 ช่วงที่ฝนตกชุกสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลเข้าเฉลี่ยวันละ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ระบายออกวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่ระบายออกคาดว่า อีก 10 วันน้ำจะเต็มอ่างและเกิดปัญหาน้ำล้นได้
รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสุพรรณบุรี รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักนอกคันกั้นน้ำให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งและเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย