รฟม.เสริมระบบระบายน้ำรอบพื้นที่ก่อสร้างช่วงหน้าฝน

กรุงเทพฯ 15 พ.ค. – รฟม.ร่วมบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ เสริมระบบระบายน้ำรอบพื้นที่ก่อสร้าง พร้อมลอกท่อตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เพื่อรองรับการระบายน้ำช่วงหน้าฝน 


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมด้วยผู้แทนกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา PCGRN  ผู้แทน บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม็นต์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา สัญญาที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ผู้แทนสำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ร่วมตรวจสอบพื้นที่และระบบระบายน้ำบริเวณรอบวงเวียนหลักสี่ เขตบางเขน และแยกรัชโยธิน ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้างของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการระบายน้ำก่อนเข้าสู่ช่วงหน้าฝน

ทั้งนี้ รฟม.ร่วมกับ กทม.ตรวจสอบและแก้ไขระบบระบายน้ำตามแนวสายทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ซึ่งบางจุดเป็นระบบระบายน้ำเก่า ท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก ทำให้ระบายน้ำได้ช้า ดังนั้น รฟม.จึงช่วยเสริมระบบระบายน้ำ โดยจัดทำระบบระบายน้ำชั่วคราวปรับเพิ่มขนาดท่อระบายน้ำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 เมตรในบริเวณพื้นที่รอบวงเวียนหลักสี่ ตั้งแต่บริเวณกรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ จนถึงสถานีดับเพลิงบางเขน รวมระยะทาง 950 เมตร พร้อมทั้งทำช่องรับน้ำจากถนนลงสู่ท่อระบายน้ำชั่วคราว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทำให้สามารถรองรับการระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะดำเนินการเสร็จภายในวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 


สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโครงการ บริเวณแยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีน้ำท่วมขัง รฟม.ได้เชื่อมท่อระบายน้ำเพื่อเร่งการระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น โดยจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 พฤษภาคม 2561 นอกจากนี้ รฟม.กำชับให้ผู้รับเหมาก่อสร้างลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่เขตบางเขนและจุดอื่น ๆ ตามแนวสายทางโครงการเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ปัจจุบัน (ณ วันที่ 31 เมษายน 2561) มีความก้าวหน้าร้อยละ 63.27 มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2563 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย