กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – พฤกษาโชว์ยอดขายไตรมาสแรก 12,600 ล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ตามแผนทั้งปี 77 โครงการ โดยเฉพาะอีอีซี-หัวเมืองท่องเที่ยว
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 ว่า บริษัทฯ มียอดขายรวม 12,696 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24 ของเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ 53,742 ล้านบาท และมีรายได้รวม 8,352 ล้านบาท และกำไรสุทธิรวม 862 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ร้อยละ 3.5 และ 26.6 ตามลำดับ ซึ่งในส่วนของรายได้และกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นมาจากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในกลุ่มแวลูหลายโครงการ ถือว่าผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 9,800 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 10 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 1 โครงการ มียอดรอรับรู้รายได้รวมอยู่ที่ 31,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 อยู่ที่ ร้อยละ 16 โดยจะรับรู้รายได้ปีนี้ 15,021 ล้านบาท และมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขาย 188 โครงการ มูลค่า 96,129 ล้านบาท
สำหรับปีนี้ยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ 77 โครงการ มูลค่า 67,800 ล้านบาท ทั้งในกลุ่มธุรกิจแวลูและพรีเมียม จึงมั่นใจว่าจะเปิดขายทุกโครงการได้ตามเป้า เนื่องจากมีที่ดินที่พร้อมพัฒนาโครงการแล้ว พร้อมสร้างแบรนด์พฤกษาให้เป็น “Trust Mark Brand” ล่าสุดทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 25 ปี พร้อมเปิดตัว “ตูน” (อาทิวราห์) ในฐานะ Brand Endorser ของพฤกษา เพื่อสื่อสาร Brand Purpose สะท้อนความตั้งใจของพฤกษาที่อยากจะทำสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งหลังจากการเปิดตัว “ตูน” ผ่านสื่อต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในวงการอสังหาริมทรัพย์เลยก็ว่าได้”
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพิ่มกลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท ทาวน์เฮาส์เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจ สำหรับกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ยังถือเป็นพอร์ตหลักของพฤกษาในปีนี้ทาวน์เฮาส์มีแผนเปิดโครงการใหม่มากถึง 44 โครงการ ปัจจุบันกลุ่มสินค้าทาวน์เฮาส์ มีการนำนวัตกรรมก่อสร้างใหม่ ๆ มาใช้ ทำให้บ้านมีคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รอบธุรกิจสั้นลง ซึ่งสามารถทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป โดยปีนี้จะรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นโดยเฉพาะในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และจังหวัดที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรม เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ รวม 13 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายไปทาวน์เฮาส์ราคา 5-7 ล้านบาทมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวคาดว่าจะช่วยให้พฤกษา สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายและรายได้ตามที่ตั้งไว้.-สำนักข่าวไทย