กรุงเทพฯ 7 พ.ค.- พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่บุรีรัมย์ ย้ำตำรวจต้องมีระเบียบวินัย สุภาพ มีจิตสำนึกให้การบริการประชาชน อำนวยความยุติธรรม ห้ามเรียกรับส่วย-เป่าคดี
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวฃกลาโหม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของทหารและตำรวจในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยได้เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ มณฑลทหารบกที่ 26 (มทบ.26) ใน “โครงการทหารพันธุ์ดี” ซึ่งให้ความรู้แก่ทหารที่จะปลดประจำการเพื่อไปทำหน้าที่นำและทำการเกษตรผสมผสานแบบครบวงจรและจัดทำแหล่งเรียนรู้ชุมชนในหมู่บ้านท้องถิ่นของตน โดยปัจจุบัน มีประชาชนเข้ารับเมล็ดพันธุ์พืชพระราชทาน จากมูลนิธิชัยพัฒนาและเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300 ราย
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ และสภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ โดยพล.อ.ประวิตร ได้ย้ำเป็นนโยบายว่า ระหว่างการปฏิรูปองค์กรและระบบงานตำรวจนั้น สถานีตำรวจต้องสัมผัสประชาชนและรับผิดชอบพื้นที่ ต้องสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนในงานบริการ งานอำนวยความยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย โดยสถานีตำรวจต้องสะอาด มีระเบียบและเหมาะสม เจ้าหน้าที่ต้องมีระเบียบวินัย สุภาพและมีจิตสำนึกให้การบริการประชาชนและอำนวยความยุติธรรม โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย ถือเป็นหน้าที่ต้องทำอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและเสมอภาค โดยไม่เลือกปฏิบัติและแสวงประโยชน์ ทั้งนี้ ห้ามมีการเป่าคดี หรือ ทำให้คดีเงียบ และเรียกรับส่วยโดยเด็ดขาด
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ต้องลงพื้นที่รับทราบทุกข์สุขและความต้องการของประชาชนอย่างสม่ำเสมอ และจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือ แจ้งข้อมูลเบาะแสภัยสังคม ยาเสพติดและแหล่งมั่วสุม ขณะเดียวกันต้องกวดขันเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อยู่ในระเบียบวินัย อย่าให้เป็นผู้มีอิทธิพลหรือกระทำความผิดเสียเอง ขอให้ดูแลและพัฒนาสวัสดิการข้าราชการตำรวจด้วยกัน ทั้งที่พักอาศัยและเครื่องมือ เครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ สถิติผู้กระทำผิดและการบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความยุติธรรมและความโปร่งใสในการบริหาร รวมทั้งเสียงตอบรับจากกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของการทำงานในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย