กทม.สั่ง 50 เขต ตรวจสอบตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญให้แล้วเสร็จใน 7 วัน

สำนักข่าวไทย 5 พ.ค. – กทม.สั่ง 50 เขต ตรวจสอบตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในพื้นที่ให้แล้วเสร็จใน 7 วัน หลังพบมีตู้น้ำใน กทม. 3,964 ตู้ แต่มีใบอนุญาตถูกต้อง 160 ตู้ ส่วนคุณภาพน้ำร้อยละ 80 ยังถูกสุขลักษณะ


นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่ไม่ได้รับอนุญาต และตรวจคุณภาพน้ำของตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญบริเวณ ยู.ดี.แมนชั่น และแพลตทินั่มแมนชั่น ซ.นาคนิวาส 29 และ บีพีแมนชั่น ซ.นาคนิวาส 48 พื้นที่เขตลาดพร้าว โดยมี เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ร่วมลงพื้นที่ด้วย 


 

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำดื่มไปตรวจสอบคุณภาพน้ำ จำนวน 3 จุด ภาพรวมบริเวณตั้งตู้น้ำดื่มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดย 2 จุดแรก(ยู.ดี.แมนชั่น และแพลตทินั่มแมนชั่น ซ.นาคนิวาส 29) ตู้น้ำดื่มทั้ง 2 ตู้ไม่มีใบอนุญาต ส่วนจุดที่ 3(บีพีแมนชั่น ซ.นาคนิวาส 48) ผู้ประกอบการมีการขอใบอนุญาตถูกต้อง ซึ่งในการเก็บตัวอย่างน้ำดื่มไปตรวจสอบคุณภาพนั้นจะใช้เวลา 24 ชั่วโมงจึงจะทราบผล เมื่อผลการตรวจพบว่าคุณภาพไม่ได้ตามมาตรฐานจะสั่งให้หยุดดำเนินการทันที และหากผลน้ำดื่มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแต่เป็นตู้ที่ยังไม่มีการขอใบอนุญาตประกอบกิจการที่ถูกต้องก็จะแจ้งให้ผู้ประกอบการมายื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และให้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักของ สคบ. ด้วย เช่น การติดป้ายแจ้งเตือนต่างๆ หรือการติดป้ายวันเวลาที่เปลี่ยนไส้กรอง  นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือ ในหลายพื้นที่มีการดัดแปลงตู้น้ำดื่มมีการต่อพ่วงไส้กรองไว้ด้านนอกตู้แล้วให้น้ำวิ่งผ่านไส้กรอก ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวและอันตรายประชาชนควรงดบริโภคน้ำดังกล่าว 


ที่ผ่านมา กทม.ได้สำรวจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในพื้นที่ 50 เขต พบว่า มีตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ทั้งหมด 3,964 ตู้ เป็นตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการถูกต้องเพียง 160 ตู้ และไม่มีใบอนุญาตถูกต้องถึง 3,804 ตู้ และการตรวจสอบคุณภาพน้ำพบมากกว่าร้อยละ 80  คุณภาพของน้ำถูกสุขลักษณะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีใบอนุญาตถูกต้องทั้งหมด 

ขณะนี้สั่งการให้สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต และสำนักอนามัย เร่งสำรวจตู้น้ำในพื้นที่และเก็บตัวอย่างน้ำจากทุกตู้ไปตรวจคุณภาพน้ำ ซึ่งคาดว่าภายใน 7 วัน จะสามารถทราบจำนวนตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ชัดเจน และจำนวนตู้น้ำดื่มที่มีคุณภาพ เมื่อพบตู้น้ำที่ไม่ได้คุณภาพจะแจ้งให้ผู้ประกอบการแก้ไขให้ได้มาตรฐานและถูกต้อง แต่หากผู้ประกอบการยังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก็จะให้หยุดให้ประกอบกิจการทันที 

ส่วนค่าธรรมเนียมการขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการตู้น้ำดื่ม นายทวีศักดิ์  กล่าวว่าปัจจุบันอยู่ที่ปีละ 2,000 บาท/ตู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ไขค่าใบอนุญาตดังกล่าว ซึ่งจะต้องนำเสนอร่างข้อบัญญัติดังกล่าวเข้าที่ประชุมสภา กทม. เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสม และให้สามารถประกาศใช้ได้ภายในปีนี้ โดยในระหว่างนี้ผู้ประกอบการก็ต้องเสียค่าใบอนุญาตประกอบกิจการตามเดิมไปก่อน จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง  ทั้งนี้หากประชาชนพบตู้น้ำดื่มไม่ได้มาตรฐานให้แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่เข้าตรวจสอบทันทีเพื่อความปลอดภัยในการบริโภคน้ำดื่มจากตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา