พรรคประชาธิปัตย์ 4 พ.ค. – หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จี้ คสช.เลิกคำสั่ง 53 เหตุเสียเวลาทำนโยบายพรรค โต้ “สมคิด” พูดความจริงกรณีดูดนักการเมืองร่วมรัฐบาล ขณะที่ “ณัฎฐพล ทีปสุวรรณ” แจ้งอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะยืนยันสมาชิกพรรคหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองที่ถูก คสช.ดูดไปร่วมงาน ว่า ไม่อยากตอบโต้ไปมา อยากให้ทุกฝ่ายพูดความจริง เพราะคนที่เกี่ยวข้องรู้อยู่แก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น โดยข้อมูลที่ทราบจากผู้เกี่ยวข้องตรงกัน ไม่ใช่อย่างที่รัฐบาลกล่าวอ้างว่า นักการเมือง อยากไปทำงานร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่พูดขัดแย้งในตัวเอง เช่น กรณีนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล ที่อ้างว่าดึงตัวมาช่วยงาน EEC ขณะเดียวกันก็บอกว่านักการเมืองต้องการมาทำงานกับรัฐบาลเอง เช่นเดียวกับ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยอมรับว่าไปพบกับนายสมคิด และพูดคุยเรื่องการเมือง และอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะไปร่วมงานกับรัฐบาล หรือจะยังทำงานการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาเรื่องสมาชิกย้ายพรรค แต่อยากให้ย้ายเพื่ออุดมการณ์และประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก มากกว่าการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจ ผลประโยชน์และตำแหน่งมาต่อรอง
ส่วนที่นายสมคิด ระบุว่าพรรคการเมืองควรทำนโยบายดีกว่ามาจับผิดรัฐบาลและพูดเรื่องการดึงตัว ส.ส.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าอยากให้คสช.ย้อนกลับไปดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้เกิดจากคำสั่งคสช.ที่ทำให้ต้องเสียเวลาในการยืนยันสมาชิกด้วยเวลาที่จำกัด ดังนั้นหากต้องการให้พรรคการเมืองทำนโยบายก็ควรบอกคสช.ให้ยกเลิกคำสั่ง 53/2560 ด้วย
“ขอให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า อย่าใช้ผลประโยชน์หรือตำแหน่งมาต่อรอง เพราะท่านก็อยู่ในวงเจรจานั้นด้วย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีจะประชุมครม.สัญจรและลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ในวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลจะไปลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน และทุกครั้งก็พบปะกับนักการเมืองในพื้นที่
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่สิงคโปร์ ว่า ใครจะทำอะไรก็ได้ หากอยู่ภายได้กฎหมาย.- สำนักข่าวไทย