สทนช.เตรียมความพร้อมรับน้ำฤดูฝน

กรมชลประทาน 3 พ.ค. – สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติระบุเตรียมเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย พร้อมสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำและแจ้งแผนรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า


พลเอกฉัตรชัย  สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 1/2561 โดยที่ประชุมได้พิจารณาการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากปี 2561 ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.จัดทำระบบคาดการณ์ โดยรวบรวมข้อมูลจากทุกหน่วยงานมาวิเคราะห์ เช่น ปริมาณน้ำฝน ข้อมูลน้ำท่า ข้อมูลน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 

ทั้งนี้ มีการประเมินพื้นที่ต่าง ๆ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยตามอิทธิพลของมรสุมช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ได้แก่ น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี จันทบุรี พังงา เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2561 ได้แก่ เชียงใหม่ อุบลราชธานี  เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก เดือนสิงหาคม-กันยายน  ได้แก่ แพร่ สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี  เดือนกันยายน-ตุลาคม 2561 ได้แก่ แพร่ สุโขทัย ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561 ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพฯ สงขลา  และเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2561 ได้แก่ สงขลา นครศรีธรรมราช


นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติมอบทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ  4 มาตรการหลักรองรับสถานการณ์ล่วงหน้า คือ 1.การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ให้เหมาะสม และสามารถรองรับปริมาณฝนในช่วงฤดูฝนได้ เบื้องต้นพบว่ามีปริมาณน้ำเก็บกักเฉลี่ย ร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ และให้พิจารณาจัดตั้งอาสาสมัครเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 2.การชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำภาคกลาง 13 ทุ่ง สามารถรองรับน้ำได้รวม 2,050 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน พื้นที่ทุ่งบางระกำ 382,000 ไร่ ซึ่งเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกตั้งแต่ 1 เมษายน 2561 และจะเก็บเกี่ยวเสร็จก่อนเดือนสิงหาคม โดยจะรับน้ำเข้าทุ่งประมาณกลางเดือนสิงหาคมสามารถหน่วงน้ำได้ 550 ล้าน ลบ.ม. และลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง 12 ทุ่ง พื้นที่ 1.15 ล้านไร่  เริ่มเพาะปลูก 1 พฤษภาคม 2561 เก็บเกี่ยวเสร็จประมาณ 15 กันยายน 2561 เริ่มรับน้ำเข้าทุ่ง ระหว่าง 20 กันยายน – 20 ตุลาคม 2561 สามารถหน่วงน้ำได้ 1,500  ล้าน ลบ.ม. โดยเน้นย้ำให้นำประเด็นปัญหาและอุปสรรคจากการดำเนินการในปีที่ผ่านมามาพิจารณาดำเนินการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. การสำรวจสิ่งก่อสร้าง และอุปสรรคที่กีดขวางทางน้ำ และแผนรองรับให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลาก และ 4. สำรวจและเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเรือ ให้พร้อมใช้งาน โดยร่วมกันบูรณาการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบกรณีเกิดภัยโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงข้างต้นด้วย อย่างไรก็ตาม สทนช.จะติดตามสถานการณ์น้ำและผลการดำเนินงานแต่ละแผนงานอย่างใกล้ชิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก