คลังดึงรัฐวิสาหกิจ-แบงก์รัฐจัดทำ Big Data

ก.คลัง 2  พ.ค. – รัฐบาลพร้อมดึงทุกกระทรวงเชื่อมโยงข้อมูลบริการประชาชน  ออกมาตรการตรงจุด หลังนำร่องคลัง ดึงรัฐวิสาหกิจ แบงก์รัฐจัดทำ Big Data เร่งรัดให้เสร็จในครึ่งปี ประกาศเริ่มปฏิรูปหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ ประชาชน เอสเอ็มอี 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบูรณาการข้อมูลด้านการเงิน-สาธารณูปการ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนสู่การเป็น Big Data”  ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)  บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด รัฐวิสาหกิจ และกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐ 9 แห่ง มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกระทรวงการคลังในการรวบรวมข้อมูล Big Data  ของทุกหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 

ทั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์จัดทำนโยบายเศรษฐกิจ เนื่องจากข้อมูลของทุกหน่วยงานนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากต่อการกำหนดนโยบายช่วยเหลือประชาชน ขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดมากขึ้น คาดว่าเชื่อมระบบข้อมูลเสร็จภายในครึ่งปีนี้  เมื่อเริ่มต้นแล้วจากนั้นจะขยายความร่วมมือไปยังทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ เพราะจะรู้จักพฤติกรรมชาวบ้าน ทั้งการใช้จ่าย การเก็บออม พฤติกรรมชีวิตประจำวัน การช่วยเหลือทั้งการศึกษา รักษาพยาบาล เงินทุน สวัสดิการจะทำได้อย่างตรงจุดมากขึ้น 


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจจะร่วมกันตั้งบริษัทลูกจัดเก็บข้อมูล โดยมีข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (NBC) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ช่วงแรกสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลรวบรวมข้อมูล Big Data กับหน่วยงานอื่น เพราะเมื่อข้อมูลชาวบ้านรวบรวมไว้ครบถ้วน การออกนโยบายช่วยเหลือจะตรงจุดความต้องการของชาวบ้านและบริการได้อย่างรวดเร็ว จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น หากจะปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนจะทำได้ง่ายขึ้นให้มีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังยังเดินหน้าเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 3 กรมภาษี ประกอบด้วย กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร เพื่อวางแผนขยายฐานจัดเก็บภาษีมากขึ้น 

เมื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูล (Big Data) จะออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้อย่างตรงจุด  ขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานข้อมูลทุกเดือน  เพื่อประเมินผลสิ้นปีนี้ และหามาตรการดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นในเฟส 3 และ 4 เพิ่ม หวังลดปัญหาคนจนให้น้อยที่สุด สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.5 ล้านคน ไม่เข้าร่วมการฝึกอบรมเฟส 2 ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ หรือเป็นผู้ป่วยติดเตียง  ส่วนกลุ่มไม่อยากพัฒนาตัวเองจะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยอีกรอบเพื่อพัฒนาตนเอง แต่จะไม่มีการบังคับหรือตัดสิทธิ์บุคคลเหล่านี้แต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง