กาฬสินธุ์ 28 เม.ย.61- ยายกาฬสินธุ์เขียนป้ายติดหน้าบ้านวอนโจรคืนเงินกว่า 6 แสนที่เก็บออมมาทั้งชีวิต หากนำเงินมาคืนพร้อมไม่เอาผิด และยินดีเป็นเจ้าภาพบวชให้หากต้องการ
ผู้สื่อข่าวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งชาวบ้านหนองบัว หมู่ 6 ต.บึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีชาวบ้าน 2 ตายาย ถูกโจรตีนแมวอุกอาจงัดหน้าต่างบุกเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านกลางวันแสกๆ พร้อมกับเชิดเงินสดและทองรูปพรรณรวมมูลค่าเสียหายมากกว่า 600,000 บาท หลบหนีลอยนวล ระบุแจ้งความกับตำรวจท้องที่แล้วยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งๆ ที่มีเบาะแส จึงเขียนป้ายติดประตูหน้าบ้านขอความเห็นใจให้นำมาคืนก่อนถูกจับดำเนินคดี
ที่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 6 ต.บึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนคุ้มท้ายหมู่บ้าน พบนายสุริยันต์ ภูลาหา อายุ 70 ปี และนางครีม ภูลาหา อายุ 67 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งอยู่ในอาการท้อแท้สิ้นหวัง เพราะรู้สึกเสียดายทรัพย์สินที่ถูกโจรขโมยไป ซึ่งเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท พร้อมทองรูปพรรณ มีสร้อยคอ เลสข้อมือ แหวน น้ำหนักรวม 7 บาท ราคาประมาณ 140,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 640,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวเป็นเงินทองที่เก็บออมมาทั้งชีวิต จากการขายอ้อย เบี้ยยังชีพคนแก่ และรายได้ของลูกสาวที่ไปขายส้มตำที่กรุงเทพฯ ส่งมาฝากสะสมไว้ในธนาคาร ก่อนที่จะถอนออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เพื่อที่จะนำไปซื้อที่ดินจากเพื่อนบ้านไว้ให้ลูกทำกิน โดยเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าห้องนอนชั้นล่าง แต่กลับถูกโจรขโมยไปหมด
นายสุริยันต์ และนางครีม ได้ให้หลานสาวช่วยเขียนป้ายขอความเห็นใจจากหัวขโมยที่เข้ามาลักทรัพย์สิน ก่อนนำไปติดที่ประตูหน้าบ้าน โดยข้อความว่า “โจรจ๋า กรุณาเอาเงินมาคืนยายหน่อยจ้า ยายหมดตัวแล้ว ปล.ถ้านำมาคืน จะไม่เอาความ” พร้อมย้ำว่า ถ้านำเงินและทองรูปพรรณที่ขโมยไปมาคืน ก็พร้อมที่จะให้อภัย หรือหากอยากจะบวชเพื่อไถ่ถอนความผิด ก็ยินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดงานบวชให้ เพราะตนเป็นคนใจบุญ ชอบเข้าวัดเหตุที่เกิดถือว่าเป็นกรรมเก่าที่เคยมีต่อกันเมื่อชาติก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ที่รู้ความเคลื่อนไหวและรู้ว่าเก็บเงินทองไว้ในบ้าน จึงฉวยโอกาสตอนที่ไม่อยู่บ้าน ก่อเหตุงัดหน้าต่างหลังบ้านเข้ามาขโมยเงินทองที่เก็บในตู้เสื้อผ้าไป
ด้าน พ.ต.ท.รัฐพงษ์ ทองชื่นตระกูล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า คดีดังกล่าวตำรวจ สภ.ห้วยเม็กได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่คืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ได้รับแจ้ง ซึ่งหลักฐานที่พบมีเพียงมีดพร้า ที่วางอยู่บริเวณหลังบ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเครื่องทุ่นแรงที่คนร้ายใช้ก่อเหตุโดยงัดหน้าต่างเข้าไปลักทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ ภายในห้องที่เกิดเหตุ ยังพบธนบัตรไทย ราคา 20 บาท 1 ใบ ซึ่งอยู่ในขันตรวจการตรวจสอบโดยละเอียดถึงที่มาของหลักฐาน รวมถึงผลพิสูจน์รอยนิ้วมือแฝง ทั้งนี้ ได้จัดกำลังสายสืบลงพื้นที่สืบสวนอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และขาดพยานหลักฐานแน่ชัด จึงจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะ อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชน ที่หากมีเงินสดหรือทรัพย์สินมีราคา ไม่ควรเก็บไว้ในบ้านหรือพกติดตัว เพราะอาจจะเกิดอันตราย ถูกคนร้ายแย่งชิงและลักขโมยได้ ควรนำไปฝากไว้กับสถาบันการเงินจะปลอดภัยที่สุด หรือหากมีธุระเดินทางไปที่อื่น ก็สามารถฝากบ้านไว้กับตำรวจได้ เพื่อความปลอดภัย ไม่ถูกมิจฉาชีพก่อเหตุลักขโมยดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย