“สุรชัย” ยันตั้ง กก.สอบคลิปเสียงโหวตคว่ำสรรหา กทสช.

รัฐสภา 20 เม.ย.-รองประธาน สนช. ยืนยัน วิป สนช.ไม่ได้คุยเรื่องนายกรัฐมนตรีสั่งคว่ำการเลือกกรรมการ กสทช.หลังจากมีคลิปเสียงปรากฏ ย้ำตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยัน สนช.ทำงานอย่างอิสระ


นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุม สนช.มีมติเสียงข้างมากไม่รับรองรายชื่อผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามที่คณะกรรมการสรรหาเสนอมา ว่า หลังจากที่ สนช.มีมติไม่เลือกตามรายชื่อดังกล่าว ก็ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ได้ทันที ส่วนตัวไม่มั่นใจในข้อกฎหมายว่าทั้ง 14 คนนั้นจะสามารถเข้ารับการสรรหาได้อีกหรือไม่ เพราะ สนช.มีมติไม่เลือกตามรายชื่อทั้งหมด จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาในการพิจารณา ตนไม่สามารถวินิจฉัยแทนได้

ส่วนกรณีที่ สนช.ลงมติไม่เลือกทั้ง 14 คน จะขัดกับมาตรา 17 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วย กสทช.หรือไม่นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า ในมาตรา 17 ได้มีการถกเถียงกันมาก ซึ่งมาตราดังกล่าว กำหนดให้สภาฯ เป็นผู้พิจารณาเลือก หากจะตีความตามตัวอักษรว่าส่งชื่อมาแล้วต้องเลือกอย่างเดียว จะไม่เกิดความเป็นธรรมและเป็นช่องโหว่ของการใช้กฎหมายเป็นเครื่องในการบล๊อกคนมาได้ ดังนั้นจึงต้องเป็นเรื่องระมัดระวังในการตีความกฎหมาย และสภาฯ ก็พยายามตีความกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อ สนช.ได้ฟังรายงานลับ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถนำข้อมูลในรายงานลับของกรรมาธิการเสนอ มาเผยแพร่ต่อสาธารณะได้ แต่สมาชิก สนช.ทุกคนได้ฟังข้อมูลจากรายงานลับแล้ว ก็มีข้อวิตกกังวลตรงกันทั้งหมดว่าหากลงมติเลือกไป จะเกิดปัญหาในอนาคต และนำไปสู่การฟ้องร้อง เพียงแต่สมาชิกมีความเห็นต่างในแนวทางว่าสภาฯ จะมีการลงมติอย่างไร ดังนั้นสิ่งที่สภาฯ ตัดสินใจ คือ เป็นไปบนพื้นฐานของการสร้างความถูกต้องในการได้ผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญมาทำหน้าที่ ขณะเดียวกัน ไม่ต้องการให้เป็นบรรทัดฐานในการนำมาตรา 17 ไปใช้ในช่องทางที่ไม่ถูกต้องต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการบล๊อกตัวบุคคลและบังคับให้สภาฯ ต้องเลือก ดังนั้นในช่วงของการประชุมลับ ได้มีการถกเถียงกันอย่างมาก


นายสุรชัย ยังกล่าวกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นการประชุมวิป สนช.โดยมีเนื้อหาช่วงหนึ่งพูดถึงการโหวตคว่ำบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทั้ง 14 คน โดยอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่พอใจบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ 8 คน จาก 14 คน ว่า ตนเพิ่งทราบเมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) หลังจากเสร็จสิ้นการทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เนื่องจากมีคนเปิดให้ดู จึงหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ว่าควรต้องตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่ามีความเป็นมาอย่างไร แต่ยืนยันว่าในที่ประชุม วิป สนช.เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้แต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ส่วนเป็นการพูดคุยในที่ประชุมของคณะกรรมการสรรหา หรือ คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกรรมการ กสทช.หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ และตนก็ไม่ทราบว่าสื่อนำคลิปมาจากที่ใด หรือได้มาจากใคร

“ขอยืนยันว่ากรณีที่ สนช.มีมติไม่เลือกบุคคลทั้ง 14 คน เพราะพบปัญหาด้านคุณสมบัติและความประพฤติ 8 คนนั้น ไม่ได้ถือว่า สนช.เป็นผู้วินิจฉัยคุณสมบัติตัวบุคคล เพียงแต่มองในประเด็นว่าหากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็จะเกี่ยวโยงไปข้อกฎหมายที่เขียนให้กรรมการสรรหาต้องเสนอชื่อมา 2 เท่า หากสมมติว่า 1 ใน 2 คนนั้นมีปัญหาด้านคุณสมบัติ บัญชีนั้นที่เสนอมา จะถือว่าเสนอมาอย่างถูกต้องตามที่กำหนดว่าต้องเสนอมา 2 เท่าหรือไม่ แม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้กำหนดให้ สนช.วินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามก็ตาม แต่เมื่อมีข้อมูลเข้ามาแล้ว หาก สนช.เดินหน้าลงมติเลือกไปแล้ว ก็จะเกิดคำถามตามมาว่ามีข้อมูลปรากฎอยู่ในรายงานว่ามีปัญหาที่จะต้องมอง แต่ สนช.ก้าวข้ามไป ซึ่งหากภายหลังมีการฟ้องร้องแล้วศาลชี้ว่าขาดคุณสมบัติ สังคมก็ต้องกลับมาถาม สนช.ว่า สนช.เลือกไปได้อย่างไร ทำไม สนช.ไม่สนใจ” นายสรุชัย กล่าว

นายสุรชัย กล่าวอีกว่า ไม่ขอกล่าวโทษว่าเรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของใคร แต่ สนช.จะทำหน้าที่ของ สนช.อย่างดีที่สุด เพราะเป็นด่านสุดท้ายในการรองรับคนเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญของประเทศ ส่วนกรรมการสรรหาต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ตนตอบไม่ได้


ส่วนกรณีที่คลิปเผยแพร่ออกมาเช่นนี้ จะส่งผลต่อภาพลักษณ์การถ่วงดุลอำนาจหรือไม่นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า เรื่องนี้จึงต้องมีการตรวจสอบที่มาว่าเป็นความจริงหรือไม่ ส่วนใครจะมองว่า สนช.ถูก คสช.ครอบงำนั้น ก็สุดแล้วแต่จะมอง เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ 

ส่วนกรณีนี้จะถือว่านายกรัฐมนตรีมีอิทธิพลต่อ สนช.ทั้ง 250 คนหรือไม่นั้น นายสุรชัย กล่าวว่า สนช.ทำงานโดยยึดหลักประโยชน์ของสังคมและสาธารณะ ไม่ตัดสินใจบนพื้นฐานของความชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งต้องดูการทำงานอื่นของ สนช.ด้วย ไม่ใช่แค่กรณีนี้เท่านั้น จึงยืนยันว่า สนช.มีอิสระในการทำงานอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย