รร.เซ็นทราฯ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 20 เม.ย.- ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง แนะรัฐบาลประยุทธ์ดึงกลุ่มการเมืองร่วมรัฐบาล ระวังคนครหาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ด้าน “นิกร” ซัด รัฐธรรมนูญ 60 กระทบการเมืองไทยรุนแรง
สมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จัดเวทีสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “พัฒนาการเมืองไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ 60” โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมแสดงความคิดเห็น ประกอบด้วย นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง และนายนิกร จำนง อดีตกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และประธานอนุกรรมการวิชาการและกิจกรรมพิเศษ สมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง
นายชาติชาย กล่าวระหว่างเสวนาว่า จากปัญหาวิกฤตโครงสร้างทางสังคมทั้งความไม่เท่าเทียมกัน การทุจริตคอรัปชั่น การแตกแยกทางความคิด และการต่อสู้เพื่อเข้าสู่อำนาจแบบเอาเป็นเอาตาย เป็นที่มาของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 เพื่อเป็นทางออกของปัญหา โดยมุ่งให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดพื้นที่การเมืองภาคประชาชนมากขึ้น เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาพื้นที่การเมืองมากกว่าพื้นที่ทางสังคม เป็นการเมืองในลักษณะประชาธิปไตยแบบอำนาจนิยมแฝง อีกทั้งต้องวางระบบการเมืองให้โปร่งใส ป้องกันคนทุจริตเข้าสู่การเมือง ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประเทศในเรื่องความสัมพันระหว่างรัฐกับประชาชน การบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมายและการปฎิรูปประเทศ ขณะที่แนวโน้มการเมืองไทยในขณะนี้นั้น พื้นที่ทางการเมืองของประชาชนเปิดกว้างด้วยโซเชียลมีเดีย พื้นที่รัฐ ราชการขยายตัวแต่พื้นที่การเมืองของนักการเมืองยังไม่กว้างพอ
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า การเมืองไทยมีโครงข่ายอำนาจหลากหลายที่เกิดการแก่งแย่งต่อสู้กัน ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเสนอทางออกให้เปลี่ยนการเมืองไทยแบบแก่งแย่งเป็นการเมืองแบบประนอมอำนาจ โดยนำกลุ่มโครงข่ายอำนาจการเมืองกลุ่มต่าง ๆ ในสังคมมาวางเงื่อนไข เพื่อประคับประคองให้การเมืองเดินหน้าได้และปรับความคิดการให้เป็นการเมืองแบบพอเพียง สามารถอยู่ด้วยกันอย่างเป็นกัลยาณมิตร
ด้าน นายอเนก กล่าวว่า การเมืองไทยแม้จะเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ใจในยังไม่เป็นประชาธิปไตย กรธ.จึงได้มีความมุ่งหมายให้ประชาชนมีพลังทางการเมืองมากขึ้น พัฒนาประเทศสู่ความเจริญรุ่งเรือง พร้อมฝากความหวังให้พรรคการเมืองสานต่อเรื่องการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติ หากมีประเด็นที่พรรคการเมืองไม่ชอบก็สามารถปรับแก้ได้ เพราะแผนการปฏิรูป สามารถแก้ไขได้ 5 ปี ขอฝากไปยังประชาชนก่อนจะหย่อนบัตรเลือกตั้งให้พิจารณาถึงการปฏิรูปด้วย
นายเอนก ยังกล่าวถึงแนวคิดธรรมาธิปไตยต่อการที่รัฐบาลแต่งตั้งกลุ่มนักการเมืองมาร่วมรัฐบาล โดยให้ข้อคิดว่า การทำพรรคการเมืองใหม่ต้องพยายามไม่ให้มีคนเข้าใจว่าเป็นการดูด หรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน
ขณะที่นายนิกร เห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 กระทบต่อการพัฒนาการเมืองไทยอย่างรุนแรง เช่น การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองก็จะต้องผูกพันกับยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงจะต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบนโยบายพรรคการเมืองก่อน อีกทั้งจะต้องยึดตามหลักกับแผนยุทธศาสตร์ชาติที่ถูกร่างขึ้นมาโดยรัฐธรรมนูญ เมื่อพรรคการเมืองไม่สามารถนำความต้องการหรือความเดือดร้อนของประชาชนมากำหนดเป็นนโยบายได้ ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหา เพราะไม่ให้การเมืองเคลื่อนไปตามระบบที่ควรจะเป็น .-สำนักข่าวไทย