รฟท.สรุปยอดผู้ใช้บริการสงกรานต์กว่า 729,000 คน

กรุงเทพฯ  18 เม.ย. – รฟท.สรุปจำนวนผู้โดยสารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วัน ยอดเดินทางหนาแน่นสูงกว่า 729,000 คน


นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ตามที่ รฟท.จัดเดินขบวนรถและพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่มีการวิ่งให้บริการเป็นประจำ  235 ขบวนต่อวัน นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2561 (เที่ยวไป 9 ขบวน) และวันที่ 15-17 เมษายน 2561 (เที่ยวกลับ 11 ขบวน)  รวมทั้งหมด 20 ขบวน เพื่อให้บริการประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 

 สำหรับยอดผู้ใช้บริการในช่วง 7 วัน ( 11-17 เม.ย.)  729,270 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 16,343 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของจำนวนผู้ใช้บริการ เนื่องจากปีนี้มีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 5 วัน ทำให้ผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น สำหรับเส้นทางที่ผู้โดยสารเดินทางมากที่สุด คือ สายตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้โดยสาร 207,840 คน ถัดมา คือ สายใต้ 203,961 คน สายเหนือ 167,385 คน  สายตะวันออก 84,368 คน และสายแม่กลอง 65,716 คน โดยวันที่ 12 เมษายน 2561 มีผู้โดยสารเดินทางสูงสุด คือ 116,827 คน ซึ่งภาพรวมการโดยสารปีนี้ด้านจำนวนขบวนรถและตู้โดยสารเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง  การจำหน่ายตั๋วเป็นไปด้วยความเรียบร้อย


ด้านความปลอดภัยได้รับความร่วมมือจากกองบังคับการตำรวจรถไฟ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสารวัตรทหารบกจากกรมทหารราบที่ 11 ในการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประจำสถานีและบนขบวนรถ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในสถานีและบนขบวนรถ รวมถึงการจัดระเบียบในการใช้บริการ มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ ตรวจหาสารเสพติดให้กับพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่ เพิ่มความเข้มงวดในการห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด ทั้งนี้ไม่พบปัญหาอาชญากรรมเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลดังกล่าว  

นอกจากนี้ ได้รับความร่วมมือจากกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ร่วมกันปฏิบัติงานเฝ้าระวัง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุระหว่างจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟกับรถยนต์ให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรไปมา โดยสรุปภาพรวมการให้บริการทั้งหมดปีนี้ถือว่าบรรลุตามเป้าหมายและเป็นที่น่าพอใจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง