กทม.ตรวจจุดเสี่ยงริมน้ำเจ้าพระยา หวั่นซ้ำรอยปี54

กทม.30ก.ย.-กทม.ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังจุดเสี่ยง 2เขต วางกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำ หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี54


 

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) พร้อมคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงเรือตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจุดเสี่ยงวิกฤตน้ำท่วมปี 2554 โดยกล่าวภายหลังว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งศักยภาพในการรองรับน้ำอยู่ที่ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีแต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม อาจทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยประสบอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ช่วงบริเวณซอยเขียวไข่กา เขตดุสิต , ซอยจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด โดยสำนักระบายน้ำได้นำกระสอบทรายจัดเรียงเป็นแนวคันกั้นน้ำชั่วคราวความสูงกว่า 2 เมตร รวมถึงจุดที่เป็นฟันหลอได้วางกระสอบทรายตลอดแนวยาว 4กิโลเมตร ซึ่งมีท่าเรืออยู่จำนวน 100ท่า พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่เต็มกำลังเฝ้าระวังน้ำเหนือ น้ำหนุนอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะพ้นช่วงฤดูฝน


 

นายอมร กล่าวอีกว่า กทม.ได้ดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาคลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรความยาวประมาณ 77 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 76.8 กิโลเมตรสามารถป้องกันปัญหาน้ำล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้อยู่ที่ระดับ 2.50 -3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งระดับดังกล่าวเป็นการปรับปรุงเสริมความสูงผนังกั้นน้ำสูงอีก 50 เซนติเมตรหลังน้ำท่วมเมื่อปี 2554  สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้มีความยาวประมาณ 200 เมตรบริเวณถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ เนื่องจากมีอาคารรุกล้ำแม่น้ำกีดขวางแนวที่จะก่อสร้างคงต้องรอกระบวน การศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่จะดำเนินการจัดระเบียบต่อไป ยืนยันคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]