อภิสิทธิ์ จี้ คสช. ชัดเจน เรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง

พรรคประชาธิปัตย์ 13 เม.ย.-อภิสิทธิ์ ขอ ให้ คสช. ชัดเจน เรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง ไม่ต้องรอพรรคขอ หวั่นไม่เป็นธรรม เชื่อต้องมีเลือกตั้ง ระบุ ปชป. ต้องแข่งกับตัวเองมากกว่าพรรคอื่น


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องไปดำเนินการเรื่องกฎหมายให้เรียบร้อย เพราะขั้นตอนและโรดแมปขึ้นอยู่กับกระบวนการทางกฏหมาย ที่เดิมคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนนี้ กฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ แต่เมื่อมีการยื่นตีความ อาจทำให้ระยะเวลาขยับออกไปอีก ซึ่งปัญหาของพรรคการเมืองมี 2 ประเด็นคือ คำสั่งที่เป็นปัญหาละเมิดสิทธิประชาชน สร้างภาระและความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็นให้พรรคการเมือง ซึ่งหากสะสางแล้วเสร็จก็จะทำให้เกิดความชัดเจนว่าจะกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ และกำหนดการเลือกตั้ง 150 วันว่าจะเริ่มนับวันใด เพราะเป็นอำนาจของหัวหน้า คสช. หากเกณฑ์เวลา หัวหน้า คสช.สามารถลดทอนขั้นตอน ตลอดจนกรอบเวลา 90 วัน หากไม่จำเป็นก็สามารถตัดออกได้ ทุกอย่างจะแก้ไขได้ด้วยกรอบเวลาไม่ต้องมีปัญหาเรื่องการตีความ หวาดระแวงเป็นปมขัดแย้ง ดังนั้น คสช.ควรที่จะสะสางข้อกฏหมายเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความชัดเจนของพรรคการเมืองใหม่ อีก 2-3 เดือนจะมีความชัดเจนว่ามีพรรคเกินขึ้นอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายหลังวันที่ 30 เม.ย.ไม่ว่าพรรคเก่าหรือใหม่ ก็ต้องรอ คสช. ปลดล็อคพรรคการเมือง เพราะไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ได้ทำให้เกิดช่องว่าง ดังนั้น คสช.ควรชัดเจน ไม่ใช่รอให้พรรคการเมืองไปขออนุญาต เพราะเป็นแนวทางที่ไม่ถูกต้อง หาก คสช.อนุญาตเป็นบางพรรค หรืออนุญาตช้าเร็ว จะเกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบและไม่เป็นธรรม ในขณะที่รัฐธรรมนูญต้องการปฏิรูปการเมืองแต่กลับมองว่าพรรคการเมืองผูกกับการเลือกตั้งจนทำให้เกิดความขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา จึงขอให้มองพรรคการเมืองเป็นสถาบันที่ต้องดูแลประชาชน จึงขอให้ คสช.ทบทวนแนวคิดเพื่อให้ประเทศเดินไปได้ในช่วงครึ่งปีหลัง


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนยอมรับสถานการณ์พิเศษด้วยเหตุผลด้านความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงเท่านั้น แต่จะดำเนินการต่อไปแบบนี้ตลอดคงเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องแข่งขันกับตนเอง มากกว่าไปแข่งขันกับพรรคการเมืองอื่น ซึ่งขณะนี้การแข่งขันทางการเมืองเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคต้องเสนอทางเลือกให้กับประชาชน เพื่อให้ประขาชนเกิดความศรัทธา และอยากเห็นการเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาประเทศแต่ละด้านโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ มากกว่าการถกเถียงการเมืองว่าจะจับมือกับใคร หรือจะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่เพราะจะทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย