กรมคุมประพฤติ 11 เม.ย.- ศาลร่วมกรมคุมประพฤติ ใช้ EM คดีเมาแล้วขับช่วงสงกรานต์ โดยเฉพาะกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับ ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ 200-250 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ร่วมกับ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายประเสริฐ โหล่วประดิษฐ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงดอนเมือง ร่วมแถลงข่าว การใช้ EM กับคดีเมาแล้วขับ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน
นายสราวุธ กล่าวว่า การประสานความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม และกรมคุมประพฤติในครั้งนี้ เป็นการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวของสำนักงานศาลยุติธรรมมาใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมความประพฤติที่ศาลมีคำสั่งพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และกำหนดเงื่อนไขให้ติดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวดังกล่าว โดยระยะแรกจะเริ่มนำร่องศาลแขวงพระนครเหนือ และศาลแขวงดอนเมือง ตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
ด้านอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สำหรับการใช้อีเอ็ม จะใช้กับกลุ่มผู้ถูกคุมความประพฤติในคดีขับรถขณะเมาสุรา ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 2 และสำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 12 นอกจากนี้ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Center) ของสำนักงานศาลยุติธรรมและสำนักงานคุมประพฤติในการติดตามผู้ถูกคุมความประพฤติ ซึ่งได้ฝึกอบรมพนักงานคุมประพฤติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถดำเนินการตามมาตรการใช้ EM กับกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีขับรถขณะเมาสุราได้ทันที
ส่วน นายประเสริฐ กล่าวว่า ศาลจะนำ อีเอ็ม มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของจำเลยที่ต้องพิพากษาแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มผู้กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับ ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ 200-250 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ศาลอาจใช้ดุลยพินิจสั่งให้รอการลงโทษ และกำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติ เช่น ห้ามออกนอกสถานที่พักอาศัยในยามวิกาล ส่วนมาตรการในการป้องกันตัดสายอีเอ็ม ในตัวสายมีเส้นไฟเบอร์ออฟติก หากมีการตัดจะส่งสัญญาณเข้าศูนย์ควบคุม และจะส่งเรื่องถึงศาลให้พิจารณาทันที เนื่องจากมีเจตนาหลบหนี-สำนักข่าวไทย