กรุงเทพฯ 5 เม.ย.-พม.-มท.- สสส.-ภาคีเครือข่าย ร่วมจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ พร้อมรณรงค์พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัยไม่ลวนลาม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย ,นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมแถลงข่าว”สงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัยไม่ ลวนลาม” สืบเนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นต่อการจัดงานสงกรานต์ปี 2560 ระบุว่าสิ่งที่คน กังวลเมื่อมาเที่ยวสงกรานต์3ประเด็นคือทะเลาะวิวาทร้อยละ 55.9 เล่นน้ำรุนแรงร้อยละ 40.9 อุบัติเหตุร้อยละ 38.6 โดยเห็นว่าหากเล่นสงกรานต์แบบไร้แอลกอฮอล์จะช่วยลดอุบัติเหตุการเสียชีวิตลดปัญหาทะเลาะวิวาทได้ ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการสร้างโซนเล่นน้ำปลอดเหล้าที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้คนมาเที่ยวงานสงกรานต์มากขึ้น
สสส. และภาคีเครือข่ายได้จัดพื้นที่ปลอดเหล้า ไม่อนุญาตให้นำเหล้าเบียร์เข้าพื้นที่ที่จัดไว้ โดยมีถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น เป็นพื้นที่นำร่องแห่งแรกกระทั่งขยายเป็น 50ถนนตระกูลข้าวและ 100 พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า จากนั้นกระทรวงมหาดไทยได้ขยายเขตโซนนิ่งไปอีกกว่า 3,200 แห่งทั่วประเทศ และปีนี้ขยับสร้างพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยในทุกอำเภอทุกจังหวัดรวมถึงสร้างมาตรการดูแลเรื่องความปลอดภัยทางถนน เช่น รณรงค์สวมหมวกกันน็อก และคาดเข็มขัดนิรภัยการตั้งด่านชุมชนสร้างมาตรการและความร่วมมือระดับชุมชนจนถึงระดับอำเภอและตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่
ด้านนายสุปรีดา กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือปัญหาความสูญเสียจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง การเล่นน้ำที่รุนแรงทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย เมาแล้วขับ ขับเร็วไม่สวมหมวกนิรภัย หากพื้นที่ไหนไม่จัดงานปลอดเหล้าส่งเสริมให้ดื่มหนักตั้งแต่ค่ำยันเที่ยงคืน ผู้ร่วมงานส่วนมากที่เป็นเยาวชนอาจมีอันตรายเพราะมีสภาพมึนเมาเมื่อเดินทางกลับบ้านเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุเจ็บตายมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมการล่วงละเมิดคุกคามทางเพศก็ง่ายที่จะเกิดขึ้น ภาคีเครือข่าย และ สสส.เคยนำร่องบทเรียนความสำเร็จจัดงานมิดไนท์สงกรานต์กลางคืนแบบปลอดเหล้าเช่นถนน ข้าวทิพย์ปลอดเหล้าจังหวัดจันทบุรี midnight paradise ที่ หาดใหญ่ และการจัดงานที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์กรุงเทพที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่7ยืนยันผลสำเร็จ สามารถควบคุมผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆได้อย่างมาก.-สำนักข่าวไทย