นนทบุรี 2 ต.ค. – กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนดันเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการมากขึ้น สร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจในประเทศ ทดแทนส่งออก ย้ำจะทำงานเชิงพัฒนาทุกด้าน เตรียมเชิญผู้ค้าข้าวหารือช่วยดันราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า แนวทางตามที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจชุมชน (local economy) อย่างเต็มที่ ซึ่งนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายปรับเปลี่ยนการดูแลกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ใหม่ โดยให้ตนเข้ามาช่วยดูแลกรมการค้าภายในเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายตามแนวทางของรัฐบาล คือ การสร้างเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการด้วยการปลดล็อกหนี้ซ้ำซ้อนให้กับเกษตรกรผ่านแนวทางยกระดับราคาสินค้าเกษตรทั้งราคาและคุณภาพสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยวางกรอบแนวทางพัฒนาให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการระยะกลางภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในและกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีบทบาทสำคัญเรื่องการดูแลปากท้องประชาชนและการรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร การสร้างความเข้มแข็ง การอำนวยความสะดวกและส่งเสริมให้เกษตรกรที่มีความพร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้ประกอบการได้ หากแนวทางเหล่านี้ประสบผลสำเร็จจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ราคาสินค้าเกษตรปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง ผลผลิตน้อย แม้จะทำให้พืชผักมีราคาดี แต่ปีนี้ภัยแล้งผ่านไปผลผลิตมีมากขึ้น ทำงานจะต้องเชิงรุกมากขึ้น เน้นบริหารจัดการพืชเกษตรที่สำคัญ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา แต่ละชนิดแบบล่วงหน้าก่อนที่จะถึงฤดูกาล โดยจะต้องทำงานร่วมกับอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในช่วงที่ผลผลิตสินค้าเกษตรออกมามากเร่งระบายสินค้าให้เต็มที่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนการส่งออกไปต่างประเทศด้วย
“ทั้ง 2 กรมฯ จะมีหน้าที่หลักในการสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออก จึงต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น เช่น ช่วงที่ผ่านมาเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ราคามันสำปะหลังตกต่ำ รวมถึงราคาข้าวโพดตกต่ำ โดยการเข้าไปทำงานล่วงหน้า และสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการข้าวแต่ละกลุ่ม เช่น สมาคมผู้ส่งออกข้าว สมาคมโรงสี และกลุ่มชาวนาแต่ละกลุ่มมาร่วมหารือกัน แก้ปัญหาสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกว่าจะช่วยกันไม่ให้ราคาลดต่ำลงไปมากอย่างไรดี” นายสุวิทย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปกรมการค้าภายในจะมีบทบาท 2-3 เรื่อง การสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ คือ การดูแลปากท้องชาวบ้านที่อาจจะต้องเข้าไปแทรกแซงในบางครั้งผ่านการจัดงานธงฟ้า การดูแลระดับราคาสินค้าเกษตร และงานพัฒนา ที่จะเน้นการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานทั้ง ธ.ก.ส., บิซ คลับ และทำงานร่วมกับพาณิชย์จังหวัด และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่จะเข้าไปเน้นในเชิงพัฒนาเพื่อสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น และสนับสนุนให้ผู้ที่ต้องการมีกิจการเป็นของตนเองสามารถยื่นจดทะเบียนเป็นผู้ค้าที่ถูกต้องตามกฏหมายได้ต่อไป. – สำนักข่าวไทย