ชาติไทยพัฒนาเปิดให้สมาชิกพรรคยืนยันตัวตน

พรรคชาติไทยพัฒนา 4 เม.ย.-บรรยากาศที่พรรคชาติไทยพัฒนา วันที่ 3 ของการเปิดให้สมาชิกพรรคเข้ายืนยันการเป็นสมาชิก เป็นไปด้วยความคึกคัก “ธีระ” ระบุหลัง คสช.ปลดล็อก เตรียมตั้งสาขาพรรคและหาสมาชิกให้ครบ 500 คนในพื้นที่ต่าง ๆ เป้าหมายทำตามกฎหมายกำหนด ให้ครบ 4 ภาค ภาคละ 4 แห่ง “วราวุธ-นิกร” ย้ำนายกรัฐมนตรี ต้องมาจากพรรค


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคชาติไทยพัฒนาวันนี้ (4 เม.ย.) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการเปิดให้สมาชิกพรรคเข้ายืนยันการเป็นสมาชิก ณ ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีทั้งคณะกรรมการบริหารพรรค แกนนำ อดีต ส.ส. และสมาชิกเข้ายืนยันการเป็นสมาชิก อาทิ นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรค นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค นายยุทธพล อังกินันทน์ , นายอนุรักษ์ จุรีมาศ , นายธรรมา ปิ่นสุกาญจนะ อดีต ส.ส. รวมถึงกลุ่มนิวบลัด ทั้งนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง และ นายเสมอกัน เที่ยงธรรม อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี

ขณะที่การยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น ได้ใช้วิธีให้อดีต ส.ส. ลงพื้นที่รวบรวมรายชื่อสมาชิก แต่หากพื้นที่ใด ไม่มีสาขาพรรค หรือ อดีต ส.ส. จะใช้วิธีส่งจดหมายตอบรับให้สมาชิกพรรคยืนยันการเป็นสมาชิกกลับมาและชำระเงินตามขั้นตอน


นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เชิญสมาชิกพรรคมายืนยันสมาชิกภาพและชำระค่าบำรุงพรรค เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ให้แต่ละพรรคสามารถเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามีสมาชิกพรรคกว่า 22,000 คน นอกจากนี้ใช้วิธีการส่งจดหมายและเอกสารประกอบไปให้สมาชิกถึงบ้าน 

“เป็นที่ทราบกันดีว่าพรรคการเมืองยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก นอกจากส่งจดหมายไป เราจะให้ตัวแทนอดีตสาขาพรรคในต่างจังหวัด ติดตามประสานงานกับพี่น้องประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันสมาชิกภาพ”นายธีระ กล่าว

เมื่อถามว่าพรรคเตรียมจะดำเนินการอย่างไรบ้าง เมื่อคสช.ปลดล็อคให้กับพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า สิ่งแรกที่จะต้องทำคือตั้งสาขาพรรค และหาสมาชิกให้ครบ 500 คนในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเป้าหมายจะต้องทำให้ครบทั้ง 4 ภาค ภาคละ 4 แห่ง ตามที่กฎหมายกำหนด และเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศเขตเลือกตั้งชัดเจน จะได้มีตัวแทนประจำจังหวัด เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ 


นายวราวุธ กล่าวว่า คาดหวังว่าจะมีสมาชิกพรรคยืนยันกลับมาเกินครึ่งหนึ่ง จาก 24,710 คน ซึ่งแกนนำพรรคทุกคนแสดงเจตนารมณ์ว่าจะยังอยู่กับพรรคต่อ แม้ว่าจะติดภารกิจไม่ได้มาในวันนี้ ทั้งนี้ยอมรับว่ามีอดีต ส.ส.จะย้ายออก และสมาชิกใหม่จะย้ายเข้า ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติของการเมือง ขออย่าเพิ่งโอนเอนไปตามกระแส เพราะยังต้องดูจนถึงวันที่ 30 เมษายนนี้ 

“แต่กังวลว่าหากใครไม่ร่วมงานกับพรรคต่อ ก็จะกระทบต่อคะแนนฐานเสียงของพรรคที่จะหายตามเจ้าตัวไป แต่ที่ยืนยันได้แน่นอนว่าจะยังอยู่กับพรรคต่อ คือ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ , นายนพดล พลเสน และอดีต ส.ส.ในพื้นที่อีสาน ทั้งจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนใครที่จะย้ายออก จะต้องมาพูดคุยถึงสาเหตุความจำเป็นก่อน และขอยืนยันจุดยืนเดิมของพรรคว่าจะเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเอง ยึดหลักประชาธิปไตย ส่วนท้ายที่สุดนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนนอก คนใน ขึ้นอยู่กับสภาเป็นตัวตัดสิน เพราะเรื่องนี้มีการพูดคุยกันมาหลายยุคหลายสมัย” นายวราวุธ กล่าว

ด้านนายนิกร กล่าวยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญได้กำหนดเรื่องนี้ไว้ ต้องไปพิจารณาเมื่อถึงเวลานั้น ส่วนเรื่องสมาชิกขณะนี้ยังไม่มีใครประกาศชัดเจนว่าจะออกจากพรรค อาจมีทั้งคนที่อยากจะย้ายพรรค และเข้ามาร่วมงานกับพรรค

“เข้าใจหากใครจะย้ายออกไปจากพรรค หรือไม่ยืนยันการเป็นสมาชิกพรรค ก็ต้องดูเหตุผล ที่อาจมีความจำเป็น ตามเงื่อนไขของกฏหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการได้มาซึ่ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แต่ก็เอาตามความสบายใจ ส่วนการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะไม่เกินระยะเวลาตามโรดแมปที่นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับขุนเรือง ไว้แล้วเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.)” นายนิกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]