นายกฯ เปิดสายตรงไทยนิยมรับเรื่องร้องทุกข์ประชาชน

ทำเนียบฯ 3 เม.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมเปิด Facebook สายตรงไทยนิยม หรือ สายตรงลุงตู่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางรับเรื่องร้องทุกข์ รวมถึงข้อซักถามที่เกี่ยวกับประเด็นที่ประชาชนสนใจ รวมทั้งเรื่องการเมือง การเลือกตั้ง และ ประชาสัมพันธ์งานภาครัฐ ส่งถึงประชาชนโดยตรง


นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ทุกข้อมูลจะถึงตนแน่นอน และจะรีบตอบกลับ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขความเดือดร้อนโดยเร็ว สำหรับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นนั้น รัฐบาลกำลังเร่งตรวจสอบ อย่าไปหลงเชื่อคำบิดเบือนว่า ทุจริตมีมากในรัฐบาลนี้ แต่ที่ปรากฎขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลมีความจริงจังในการรื้อปัญหาที่มีมานาน ขึ้นมาแก้ไข แต่ทุกอย่างก็มีขั้นตอนและต้องใช้เวลา ซึ่งหลายเรื่องพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง และ ระดับล่างหลายกระทรวง ก็ต้องสั่งโยกย้าย หรือ ให้ออกหลายระดับ ตนเป็นห่วงข้าราชการชั้นผู้น้อย อย่าไปยอมทำตามในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สำหรับการเปิดตัว Facebook หรือ อะไรใหม่จากรัฐบาล ย่อมต้องถูกท้าทาย เป็นสิ่งที่ต้องอดทน และตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้เยี่ยมชมช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์ของภาครัฐจากหลายหน่วยงาน ทั้งแอพลิเคชั่น Police I Lert You ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ PSC1111 และได้ทดลองรับสายร้องเรียนผ่านสายด่วน 1111 ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องร้องเรียนจากชาวจังหวัดจันทบุรีเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ จึงสั่งการให้จังหวัดเข้าไปไกล่เกลี่ยพร้อมแนะนำเพิ่มเติมให้ไปกู้เงินตามระบบที่ถูกกฎหมายซึ่งมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยชัดเจน จากนั้นเยี่ยมชมการดำเนินงานของสายด่วน 1567 ศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย