กองทัพบก 2 เม.ย.-เลขาธิการ คสช.ขอบคุณทุกส่วนทุ่มเทดูแลบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สั่งทุกส่วนงานเดินหน้าปรามปราบการทุจริต ตาม “มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการ”
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า เช้าวันนี้ (2 เม.ย.) มีการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. ที่มี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช.เป็นประธาน โดยได้กล่าวขอบคุณทุกส่วนงานที่ทุ่มเทดูแลบ้านเมืองให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประเทศมีความสงบสุข ภาคเศรษฐกิจและธุรกิจเดินหน้าไปได้ตามกลไก ส่วนการขับเคลื่อนงานด้านการเมืองตามโรดแมปการเลือกตั้งนั้น สามารถเดินหน้าไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย ภายใต้การมีส่วนร่วมและการเสนอแนะความคิดเห็นจากหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม คสช.จะยังคงมุ่งมั่นทำงานสร้างความมั่นคงและดูแลช่วยเหลือประชาชนต่อไป
“การประชุมในวันนี้ เลขาธิการ คสช.ได้กล่าวถึงการปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่ คสช.ดำเนินการมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะตระหนักดีว่าทุจริตคอร์รัปชั่นส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน ล่าสุด คสช.ได้เสนอมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในระบบราชการ เพื่อเสริมการทำงานในเรื่องดังกล่าวให้กับทางรัฐบาลที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยสั่งการให้ทุกส่วนงานให้ความสำคัญกับมาตรการดังกล่าว พร้อมนำไปดำเนินการในทุกมิติให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมโดยด่วน” รองโฆษก คสช. กล่าว
รองโฆษก คสช. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ เลขาธิการ คสช.ยังได้แสดงความห่วงใยต่อสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนที่ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อนจากภัยแล้ง ไฟป่า หมอกควัน ประกอบกับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การใช้น้ำจะมีปริมาณสูงขึ้น จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เกิดภาวะแล้งซ้ำซาก โดยในวันนี้กองทัพบกจะร่วมกับภาคีเครือข่ายเปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง” นำน้ำไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยแล้งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ส่วนปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ฝากให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ที่ได้คลี่คลายและป้องกันไฟป่าหมอกควันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยว ขอให้เร่งดูแลอย่าให้เกิดผลกระทบกับการท่องเที่ยวและเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย