กรุงเทพฯ 30 มี.ค.- รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย ตม.ตากเร่งประสานงานกับเจ้าหน้าที่กงสุลเมียนมา ในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลศพชาวเมียนมา 20 รายที่ถูกไฟคลอกบนรถบัสโดยสารบริเวณทางหลวงแม่สอด จ.ตาก ส่วนอีก 27 คนเร่งให้ความช่วยเหลือและสอบปากคำเพื่อทราบสาเหตุเกิดจากความประมาทของผู้ใด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณี รถบัสโดยสารเกิดเพลิงไหม้ บริเวณทางเข้าหน้าอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช จ.ตาก ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.30 น.(30 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ท้อ จ.ตาก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ที่ทางหลวง 105 แม่สอด – ตาก กม. 60 หน้าอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช เจ้าหนจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถบัสโดยสารแบบพัดลม ทะเบียน 103824 นครสวรรค์ เกิดไฟไหม้ลุกท่วมทั่วบริเวณคัน จึงช่วยกันดับไฟ จนเพลิงสงบลงสอบถามพยานผู้โดยสารที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า รถบัสคันดังกล่าว โดยสารชาวเมียนมา จำนวน 47 คน เป็นแรงงาน MOU ที่เดินทางจาก อ.แม่สอด จะไปทำงานที่โรงงานที่ นวนคร ปทุมธานี ขณะนี้ตรวจสอบพบศพผู้โดยสารบนรถจำนวน 20 คน มีผู้รอดชีวิตที่หนีออกมาได้ จำนวน 27 คน ในจำนวนนี้มีบาดเจ็บสาหัส 3 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อนายจ้างให้ทราบแล้ว และส่งศพผู้เสียชีวิตไปไว้ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดแยกศพและระบุตัวตนผู้เสียชีวิต สาเหตุเบื้องต้นขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้งไป จะได้นำตัวคนขับมาสอบสวนปากคำ ตรวจสารเสพติด และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพื่อพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของผู้ใด ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างตรวจสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ในเรื่องการพิสูจน์ทราบบุคคลกำลังตรวจสอบเอกสารจากนายจ้าง ขณะนี้ทาง ตม.จังหวัดตาก ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อเตรียมประสานงานกับเจ้าหน้าที่กงสุลเมียนมา ในการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ทราบแล้ว ซึ่งท่านได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและถูกวิธี โดยให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ทั้งทางจังหวัด เจ้าหน้าที่พยาบาล กู้ภัย และให้บริหารสถานการณ์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะผู้ประสบเหตุเป็นบุคคลต่างด้าวจำนวนมาก การยืนยันตัวบุคคล จะต้องกระทำด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ การสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุจะต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏและสามารถตอบคำถามต่อสังคมได้.-สำนักข่าวไทย