fbpx

สธ.ห่วงฝนตกยุงลายเพิ่ม แนะเข้มข้นทำลายแหล่งเพาะพันธุ์

สธ.28มี.ค.- สธ.แนะนำช่วงฝนตกสลับร้อน ขอประชาชนร่วมทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านรอบบ้านต่อเนื่องป้องกันไข้เลือดออก ขณะที่สถานการณ์ของโรคปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึง 20 มี.ค.พบผู้ป่วย 4,847 คนเสียชีวิต 8 คน น้อยลงจากปีที่ผ่านมา  


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงหน้าร้อนปีนี้มีฝนตกสลับอากาศร้อนเป็นระยะๆมีน้ำขังตามเศษวัสดุ เศษภาชนะต่าง ๆ อาจเกิดการระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำให้แพทย์ในโรงพยาบาลทุกแห่งให้ความสำคัญในการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วย เพื่อให้การดูแลรักษาอย่างเหมาะสม และให้หน่วยงานในสังกัดขอความร่วมมือประชาชนในการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ภายในบ้านและรอบบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันบุตรหลานที่หยุดอยู่บ้านช่วงปิดเทอมจากโรคไข้เลือดออก  แต่หากมีอาการไข้สูงลอย กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลด อาจติดเชื้อไวรัสเดงกี ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที 


“วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคไข้เลือดออกคือ การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ตามภาชนะขังน้ำภายในบ้านอย่างต่อเนื่อง ทุก 7 วัน เพื่อไม่ให้ไข่ยุงลายที่เกาะตามภาชนะ เศษวัสดุต่าง ๆ กลายเป็นตัวยุงลาย ซึ่งทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าการพ่นสารเคมีหมอกควันซึ่งยุงลายยังสามารถบินหนีได้” นพ.โอภาสกล่าว


นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า โรคไข้เลือดออกเดงกี ติดต่อจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อไข้เลือดออกกัด หลังได้รับเชื้อประมาณ 5-8 วัน (ระยะฟักตัว) ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการซึ่งมีความรุนแรงแตกต่างกันได้ ตั้งแต่มีอาการไม่รุนแรง ไปจน ถึงรุนแรง ช็อกและเสียชีวิตได้ โดยระยะแรก ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเฉียบพลัน เกิน 38.5 องศาเซลเซียส ส่วนใหญ่จะไม่มีน้ำมูก หรือไอ มักมีหน้าแดง เบื่ออาหาร อาเจียน อาจมีผื่นแดง มีจุดเลือดออกเล็ก ๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน ในรายที่รุนแรงอาจมีอาเจียนและถ่ายอุจจาระเป็นเลือดซึ่งมักจะเป็นสีดำ 

ทั้งนี้ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อไวรัสเดงกี การรักษาเป็นแบบประคับประคองตามอาการ โดยการเช็ดตัว ให้กินยาลดไข้พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาพวกแอสไพริน ไอบรูโพเฟน เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดเสียการทำงาน จะระคายกระเพาะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้นและควรให้ผู้ป่วยดื่มน้ำผลไม้หรือสารละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 จะมีอาการรุนแรง ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงที่มีไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว อาจมีภาวะช็อก หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันท่วงทีจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนใน 2-3 วัน แต่หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจเสียชีวิตภายใน 12-24 ชั่วโมง 

สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกในปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-20 มี.ค.พบผู้ป่วย 4,847 รายเสียชีวิต 8 ราย น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นนักเรียน กลุ่มอายุ 5–14 ปี อัตราป่วยสูงสุดที่ภาคใต้ รองลงมาคือภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามลำดับ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร