ไฟเขียวแรงงานต่างด้าวกลับบ้านช่วงสงกรานต์ ตั้งแต่ 5-30 เม.ย.

ดินแดง 28มี.ค.- ครม.เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ทำงานในประเทศไทย ประเภทกรรมกร รับใช้ในบ้าน ช่างเครื่องยนต์ในเรือประมงทะเล ผู้ประสานงานด้านภาษาสามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 5 – 30 เม.ย. 61 และกลับเข้ามาในประเทศไทยช่วงดังกล่าวได้ 


 

นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่27 มี.ค.2561 มีมติเห็นชอบประเด็นที่กระทรวงแรงงานเสนอจำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) ผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ที่ทำงานในประเทศไทย ประเภทกรรมกร รับใช้ในบ้าน ช่างเครื่องยนต์ในเรือประมงทะเล และผู้ประสานงานด้านภาษาสามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางเพื่อร่วมงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 5 – 30 เม.ย. 61 และกลับเข้ามาในประเทศไทยช่วงดังกล่าวได้ 


2) ครม.เห็นชอบให้ปรับเพิ่มระยะเวลาดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในการตรวจลงตราประทับตราให้อยู่ในราชอาณาจักร ขอใบอนุญาตทำงาน และทำการปรับปรุงประวัติให้แรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา โดยผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่ยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติ แต่ได้ยื่นเรื่องขอจัดทำทะเบียนประวัติกับกรมการจัดหางาน (กกจ.) ซึ่งต้องดำเนินการภายในวันที่ 31 มี.ค. 2561 ให้สามารถอยู่ในประเทศไทยได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย.2561 และ 3) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล โดยสาระสำคัญของร่างดังกล่าว กำหนดให้มีการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือน ซึ่งลูกจ้างแรงงานประมงจะได้รับค่าจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน ตามที่คณะกรรมการค่าจ้างประกาศกำหนดไว้ โดยจ่ายเป็นรายเดือน ผ่านบัญชีธนาคารของลูกจ้าง และนายจ้างต้องออกค่าใช้จ่ายในการโอนเงินเข้าบัญชีลูกจ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบได้ และกำหนดให้นายจ้างที่ทำการประมงนอกน่านน้ำ จัดให้มีอุปกรณ์สื่อสารให้ลูกจ้างแรงงานประมงติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่หรือบุคคลภายในครอบครัวได้ในระหว่างที่ออกทะเล ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ส่วนการจ่ายค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคาร โดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารลูกจ้างนั้น จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 45 วัน ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม