นครราชสีมา 23 มี.ค.- ผบช.ภ.3 เผยคนขับรถทัวร์แหกโค้งวังน้ำเขียว ดับ 18 ราย ถูกแจ้งข้อหาแล้ว และผลตรวจปัสสาวะมีสารเสพติดตรงกับคำให้การ ส่วนตรวจสภาพรถไม่พบปัญหาเบรกแตก และใช้ความเร็วลงเขาเกินกำหนด
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 แถลงที่ สภ.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วันนี้ (23 มี.ค.) หลังประชุมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคดีอุบัติเหตุรถทัวร์เสียหลักบริเวณทางโค้ง ถนนสาย 304 นครราชสีมา-กบินทร์บุรี ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว เมื่อค่ำวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา เสียชีวิต 18 ราย บาดเจ็บกว่า 30 รายว่า วันนี้ได้ข้อเท็จจริงบางส่วนแล้ว ทำให้พอจะทราบถึงสาเหตุ ส่วนนายกฤษณะ ฑาชื่น คนขับรถทัวร์ ขณะนี้รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ขณะที่ผู้ช่วยคนขับยังไม่พบตัว ทั้งนี้ ผลการตรวจปัสสาวะของนายกฤษณะ ยืนยันแล้วว่ามีสารเสพติด (ยาบ้า) เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา 3 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่หยุดให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และ 2.เสพยาเสพติดขณะขับรถ โดยนายกฤษณะ ให้การว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด ก่อนขับรถเพื่อไม่ให้ง่วง และ 3. ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาได้ตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้นแล้วพบว่าเบรกไม่ได้แตก หรือมีน้ำมันรั่วไหล จึงเป็นไปได้ว่าคนขับไม่ชำนาญเส้นทาง และขับรถเร็วเกินกว่าป้ายเตือน คือ ห้ามวิ่งเกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะจากการตรวจสอบจากจีพีเอสพบว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุรถคันดังกล่าววิ่งด้วยความเร็ว 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกอบกับเป็นเส้นทางลงเขายาว 6 กิโลเมตร คนขับจึงเหยียบเบรกต่อเนื่องจนลมในปั้มเบรกหมด ทำให้เบรกไม่อยู่
“จากการสอบถามทางขนส่งแล้วตามกฎหมายจะต้องตรวจสภาพรถปีละ 2 ครั้ง แต่คันนี้ผ่านไปกว่าปีเศษแล้วยังไม่ได้ไปตรวจซ้ำ ฉะนั้น ตรวจสอบสภาพรถถือว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับของขนส่ง รวมทั้งเรื่องของการปล่อยให้มีการเสพยาบ้าแล้วมาขับรถมันมีกฎหมายขนส่งระบุไว้ชัดเจนว่า การยินยอมหรือให้มีการเสพยาบ้าแล้วขับรถหรือการที่ไม่ดูแลให้ดีมันจะเป็นความผิด อันนี้เราจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อหากับผู้ประกอบการด้วยใน2ข้อหานี้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนคนขับจะสำนึกผิดจะขอโทษหรือไปขอขมาผู้เสียชีวิตนั้นตอนนี้คนขับยังอยู่โรงพยาบาลยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดขนาดนั้น” พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าว
นายจรูญ จงไกรจักร นักวิชาการชำนาญการพิเศษขนส่งจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ผู้ประกอบการรายนี้ มีรถให้บริการ 3 คัน คันที่ประสบเหตุขนส่งได้สั่งเพิกถอนการจดทะเบียนไปแล้วตั้งแต่วานนี้(22 มี.ค.) ส่วน 2 คันที่เหลือนายทะเบียนขนส่ง จ.กาฬสินธุ์สั่งให้นำรถไปตรวจสภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้เรียกผู้ประกอบการไปพบแล้ว มีเพียงคันนี้คันเดียวที่ไม่ไปตรวจสภาพตามวงรอบที่จะเป็น ส่วนผู้โดยสารบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 8 ราย ในจำนวนนี้มีเด็ก 2 ราย อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และอีก 2 ราย พอพูดคุยได้ คือนางรัตนาภรณ์ ทุมเกสร และ นายธนากร สิงห์โห อายุ 56 ปี นอนรักษาอาการบาดเจ็บ เล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุรถวิ่งส่ายไปส่ายมาตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงลงเขาชันและมีทางโค้ง.-สำนักข่าวไทย