ก.เกษตรฯ 22 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ รับพิจารณาข้อเสนอประมงพาณิชย์ แก้ไขกฎหมายที่กระทบชาวประมง เตรียมตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังหารือตัวแทนสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นำโดยนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ถึงประเด็นการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับเครือข่ายสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย การขอให้กระทรวงเกษตรฯ เสนอเรื่องให้ ครม.ให้ความเห็นชอบการแก้ไข พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 อาทิ ยกเลิก ม.34 หรือ นิยาม “ประมงพื้นบ้าน” รวมทั้งขอให้ออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ควบคุมแก้ปัญหาการประมงจับปลากระตักด้วยเครื่องมือครอบ ช้อน ยก เรือปั่นไฟ และการประมงอวนลาก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงอาจส่งผลกระทบต่อทรัพยากรสัตว์น้ำและชาวประมงพื้นบ้าน
อีกทั้งขอให้แก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช. 24/2558 เพื่อเปิดให้รับจดทะเบียนเป็นเรือประมงพื้นบ้านและเรือท่องเที่ยว ตลอดจนขอให้บังคับใช้กฎหมายให้เป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ ทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้เรียกร้องให้ยกเลิก 3 ใน 5 ข้อ ที่ทางสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทยเสนอ เพราะจะกระทบกับชาวประมงทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังเสนอเพิ่ม ประกอบด้วย 1.ให้แก้ไข/ยกเลิกกฎหมาย พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 หลายมาตรา อาทิ ม.39 ม.57 ม.114 ม.166 เป็นต้น โดยขอให้นำเสนอ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบที่จะแก้ไขภายใน 1 เดือน เนื่องจากแต่ละมาตรากระทบผู้ที่มีอาชีพประมง ทำให้ไม่สามารถทำอาชีพได้อย่างอิสระและขัดกับข้อกฎหมาย บางเรื่องคำสั่ง คสช.ให้ยกเลิก เพราะไปละเมิดสิทธิ์ผู้ทำอาชีพประมงและเรื่องใดที่เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กับอธิบดีกรมประมงก็ขอให้เร่งดำเนินการ
“เนื่องจากเรื่องที่เสนอมาเป็นการแก้ไขกฎหมายและคำสั่ง คสช. จึงจะต้องผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย 1.ตัวแทนรัฐ 2.ตัวแทนชาวประมง และ 3.นักวิชาการทั้งไทยและต่างประทศมาร่วมกันพิจารณา พร้อมกันนี้ได้ให้แนวทางไว้ว่าเพื่อความรวดเร็ว อะไรที่เห็นชอบร่วมกันแล้วไม่มีปัญหา ก็ให้รีบเสนอไปก่อน ส่วนการแก้ข้อกฎหมายหลายมาตรานั้น ทั้ง 3 ฝ่ายต้องหาข้อเท็จจริงมานำเสนอว่าแต่ละมาตราเป็นอย่างไร และรุนแรงเกินหรือไม่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย